กว่าหนึ่งปีที่ ‘Starbucks’ (สตาร์บัคส์) ไม่อนุญาตให้ผู้บริโภคนำแก้วของตัวเองมาใส่เครื่องดื่ม เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้เชนกาแฟยักษ์ใหญ่ต้องมองหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะช่วยงดใช้แก้วพลาสติกเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น
แม้ว่าแฟนกาแฟสตาร์บัคส์จะยังไม่สามารถนำแก้วใบโปรดมาใส่กาแฟ แต่สตาร์บัคส์ก็ได้ประกาศเปิดตัวโปรแกรมทดลองให้ ‘Borrow A Cup’ หรือ ‘ให้ยืมแก้ว’ ใน 5 สาขาที่ซีแอตเทิล โดยแคมเปญนี้จะทดลองให้ลูกค้าสั่งเครื่องดื่มในถ้วยที่สามารถใช้ซ้ำได้ โดยลูกค้าต้องเสียเงินมัดจำ 1 ดอลลาร์ (ราว 30 บาท)
โดยลูกค้าสามารถคืนแก้วที่ตู้แบบไม่สัมผัสของร้านที่ร่วมรายการ ซึ่งทางสตาร์บัคส์จะให้เงินมัดจำคืน 1 ดอลลาร์ให้กับลูกค้า พร้อมกับได้คะแนนสะสม 10 คะแนน โดยแก้วที่ให้ยืมนั้นจะถูกทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างมืออาชีพเพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้ง โดยแก้วที่สตาร์บัคส์ให้ยืมมาแต่ละใบ จะทดแทนแก้วแบบใช้แล้วทิ้งได้ถึง 30 ใบ
สตาร์บัคส์ระบุว่า แคมเปญดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่จะลดขยะให้ได้ 50% ภายในปี 2573 โดยบริษัทกล่าวว่า ในทางเทคนิคแล้วแก้วกาแฟของสตาร์บัคส์ทั้งแบบกระดาษและพลาสติก ‘สามารถรีไซเคิล’ ได้ก็จริงแต่มันก็สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว
“เราเชื่อว่าเป็นความรับผิดชอบของเราในการลดขยะแก้วที่ใช้แบบครั้งเดียวทิ้ง หากการทดลองยืมถ้วยประสบความสำเร็จก็สามารถขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้” Michael Kobori ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของ Starbucks กล่าวในแถลงการณ์
ย้อนไปตั้งแต่ 1980 เป็นต้นมา สตาร์บัคส์ได้อนุญาตให้ผู้บริโภคนำแก้วของตัวเองมาใช้ โดยลูกค้าจะได้รับส่วนลดเพื่อลดการใช้พลาสติก แต่เมื่อเกิดการระบาด สตาร์บัคส์จึงต้องระงับให้ลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว และไม่ใช่แค่สตาร์บัคส์ เพราะห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตก็ห้ามนำถุงพลาสติกนำมาใช้ซ้ำ เพื่อป้องกันการระบาดเช่นกัน
ปัจจุบัน เฉพาะในอเมริกามีการใช้แก้วกาแฟแบบใช้แล้วทิ้งกว่า 1.2 แสนล้านใบในแต่ละปี ขณะที่การเคลือบพลาสติกด้านในของแก้วนั้นทำให้ไม่สามารถรีไซเคิลได้