สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างและสุขภาพคงจะถูกใจหากอาหารที่ทานมีการบอกจำนวนแคลอรี แต่สำหรับผู้ที่อยากมีส่วนร่วมในการ ‘ลดโลกร้อน’ ก็อาจจะอยากรู้เหมือนกันว่าตนเองมีส่วนช่วยในการลด ‘คาร์บอน’ ได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ‘มาสเตอร์การ์ด’ (Mastercard) ต้องการให้ลูกค้าเข้าใจว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายของพวกเขามีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและภาวะโลกร้อนมากเพียงใด จึงเกิดเป็นเครื่องที่ใช้วัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการซื้อของ
บริษัทบัตรเครดิต ‘มาสเตอร์การ์ด’ ได้สร้างเครื่องคำนวณที่ใช้วัดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้บริโภคโดยพิจารณาจากสิ่งที่พวกเขาซื้อ โดยเครื่องมือนี้จะพร้อมใช้งานบนเว็บไซต์และแอปของ Mastercard โดยเน้นไปที่หมวดการใช้จ่ายที่เฉพาะเจาะจง แต่ไม่ได้ติดตามธุรกรรมแต่ละรายการ
เครื่องมือดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการที่เรียกว่า Doconomy Åland Index ซึ่งรวบรวมข้อมูลจาก Trucost ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Environmental, Social, Governance: ESG) ที่ประเมินค่าใช้จ่ายแอบแฝงของธุรกิจในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่ยั่งยืน
ดัชนีดังกล่าวจะคำนวณผลกระทบของธุรกรรมโดยใช้ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์เฉลี่ยสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น ‘อาหารและเครื่องดื่ม’ หรือ ‘เครื่องแต่งกาย’ โดยเครื่องดังกล่าวยังแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนต้นไม้ที่ต้องใช้ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณเดียวกันที่ปล่อยออกมาจากการซื้อของผู้บริโภคอีกด้วย
“แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีมากเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโดยรวมของคุณในเดือนนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อบาลานซ์กึ่งกลางระหว่างความเป็นส่วนตัวและการให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค” Jorn Lambert ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลของ Mastercard กล่าว
การสร้างเครื่องคำนวณคาร์บอนเป็นความพยายามล่าสุดของบริษัทในการมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน โดยก่อนหน้านี้มาสเตอร์การ์ดเริ่มดำเนินการเพื่อลดการใช้พลาสติกครั้งแรกในการผลิตบัตรเครดิต และในเดือนมกราคมบริษัทให้คำมั่นว่าจะปล่อยก๊าซให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยเข้าร่วมในรายชื่อบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีพันธสัญญาในลักษณะเดียวกัน