“โลตัส” ผนึกกำลังพันธมิตร ดันสินค้า SME ไทยขึ้นห้าง จัด Online Business Matching ฝ่าโควิด


จากวิกฤตของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ประเทศไทย และทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่นั้น เรียกได้ว่าส่งผลกระทบให้กับทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการตั้งแต่ระดับเล็ก ไปจนถึงระดับใหญ่

“โลตัส” เป็นธุรกิจในวงการค้าปลีก ที่เข้าช่วยเหลือธุรกิจตัวเล็ก SME อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้เดินหน้าผลักดันสินค้าคุณภาพจากผู้ประกอบการ SME ไทย จำหน่ายผ่านสาขา และช่องทางออนไลน์ เพื่อฝ่าวิกฤต COVID-19

ล่าสุดยังได้จับมือกับพันธมิตรทั้ง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMED Bank) และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ทุกเดือน ประเดิมครั้งแรกผ่านทางออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พูดคุยกับทีมงานจัดซื้อของโลตัสโดยตรง ในทุกหมวดหมู่สินค้า เป็นไปตามแผนงานของโลตัสในการเพิ่มการรับซื้อสินค้า SME ทุกปี อีกทั้งยังจัดสัมมนาติวเข้ม เชิญ SME ทั่วประเทศเจาะลึกอินไซต์ค้าขายกับโมเดิร์นเทรด เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมาอีกด้วย

สลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบุคคลและความยั่งยืน โลตัส กล่าวว่า

“โลตัส สนับสนุนผู้ประกอบการ SME มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า และการยกระดับมาตรฐานการผลิตของสินค้าไทย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สร้างความท้าทายให้กับธุรกิจแทบทุกขนาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก

จึงเป็นที่มาของการร่วมมือกับ SME D Bank และ สสว. ในการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ทุกเดือน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ที่มีศักยภาพ ได้เจรจาทางการค้าโดยตรงกับทีมงานฝ่ายพาณิชย์ของโลตัส เพื่อคัดเลือกสินค้าในทุกหมวดหมู่ จำหน่ายในช่องทางของเรา ทั้งสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์”

โลตัส มีแผนงานที่ชัดเจนในการเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตรและสินค้า SME อย่างน้อย 10% ทุกปีเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนแผนงานนี้จึงได้ดำเนินการหลายด้าน รวมถึงการเปิดช่องทางบนเว็บไซต์ของเราให้ผู้ประกอบการ SME สามารถนำเสนอสินค้าได้สะดวกขึ้น

การจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ทุกเดือน ประเดิมครั้งแรกผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19  นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงกระบวนการการจัดจำหน่ายสินค้า SME ให้กระชับ และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME สามารถกระจายสินค้าผ่านโลตัส และมียอดขายเร็วขึ้นกว่าเดิม

นอกเหนือจากการเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าแล้ว โลตัสยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของ SME ในฐานะคู่ค้า ให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการผลิต ตามหลักสากล เพื่อทำให้สินค้า SME ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มขีดสามารถการแข่งขันทั้งในประเทศและในตลาดต่างประเทศ

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจร่วมเป็นคู่ค้ากับโลตัส สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.TescoLotus.com/SME

ในด้าน สสว. และ SME D Bank ได้ร่วมในการให้คำแนะนำผู้ประกอบการเกี่ยวกับการสนับสนุนจากทางภาครัฐและเงินทุน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME สามารถฝ่าวิกฤติ COVID-19  และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า

“ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เช่นนี้ ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ และเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ และหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพก็คือการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เช่น การใช้แพลตฟอร์ม  หรืออาจจะมีพันธมิตรการค้าใหม่ และในวันนี้โลตัสได้เปิดโอกาสทางธุรกิจนั้นให้กับผู้ประกอบการได้ร่วมเป็นคู่ค้า ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์ม หรือพันธมิตรการค้าที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการกระจายสินค้าไปสู่มือผู้บริโภคทั่วประเทศ

ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการเติมเต็มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ สสว. ในการเจาะตลาดโมเดิร์นเทรดอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย เนื่องจากจำนวนสาขาของโลตัสที่มีมากกว่า 2,000 สาขา บวกกับสินค้าของผู้ประกอบการที่มีหลากหลาย

ซึ่งในวันนี้ ก็มีสินค้าของผู้ประกอบการถึง 350 ราย จาก 7 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มอาหารแห้ง, กลุ่มอาหารสด หรืออาหารพร้อมรับประทาน, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป, กลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ (เครื่องใช้ภายในบ้าน), กลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ (สินค้าอิเล็กทรอนิกส์), กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องใช้ภายในบ้าน กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้าง

ซึ่งอาจรวมถึงสินค้าจากชุมชน จะได้มีโอกาสจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์กับโลตัส สิ่งเหล่านี้จะเป็นการขยายช่องทางการค้าของผู้ประกอบการให้เติบโต และเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในช่วงวิกฤติโควิด โดยช่องทางการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ อาจเป็นที่โลตัสทั่วประเทศ หรือตามความเหมาะสมตามความต้องการของตลาดและผู้ประกอบการ       

นอกเหนือจากความร่วมมือในวันนี้ สสว. ยังมีการช่วยเหลือด้านอื่นๆ ให้กับผู้ประกอบการ ทั้งการสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ และการขึ้นทะเบียนจัดซื้อจัดจ้างจากภาครัฐ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาทต่อปี

นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า

“จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SME ไทยอย่างรุนแรง ความร่วมมือครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SME ขยายช่องทางตลาดผ่านเครือข่ายของโลตัส ซึ่งมีศักยภาพการตลาดสูง ช่วยให้สินค้า SME ทั่วประเทศ  สามารถส่งตรงถึงมือผู้บริโภค ช่วยเพิ่มรายได้ เพิ่มยอดขาย

ควบคู่กับ SME D Bank จัดเตรียมบริการทางการเงินไว้รองรับ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ช่วยประคอง หรือฟื้นฟูธุรกิจก้าวผ่านสถานการณ์ COVID-19  ไปได้ด้วยดี  เช่น สินเชื่อฟื้นฟู กู้ได้ทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 2% ต่อปี ใน 2 ปีแรก โดยตลอด 5 ปีแรก เฉลี่ยไม่เกิน 5%ต่อปี 

พร้อมทั้งได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือน  ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี , สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash อัตราดอกเบี้ยต่ำ 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 5 ปี ที่สำคัญม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น นิติบุคคล 2.875% ต่อปีใน 3 ปีแรก และบุคคลธรรมดา 4.875% ต่อปีใน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท เป็นต้น

ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่สาขา SME D Bank ทั่วประเทศ  https://www.smebank.co.th/  และผ่านแอปพลิเคชัน “SME D Bank””