Twitter เตรียมกลับมาเปิดให้ยื่นขอเครื่องหมายถูก “Verified” ด้านหลังชื่อบัญชีอีกครั้ง หลังจากระงับไปในปี 2017 โดยจะมีฟีเจอร์ให้ทุกคนสามารถยื่นขอได้ในบัญชีของตนเอง พร้อมกับออกระเบียบชัดเจนขึ้น วางหมวดหมู่บัญชี 6 แบบที่จะยื่นขอรับรองได้ นอกจากนี้ ยังเตรียมพิจารณาเครื่องหมาย “บอท” ให้กับบัญชีแบบออโต้ด้วย
สำหรับผู้ที่จะยื่นขอ “เครื่องหมายถูก” หรือการ “Verified” รับรองตัวตนของเจ้าของบัญชี จะต้องเป็นบัญชีที่เป็นที่สนใจของสาธารณะ มีความเป็นต้นฉบับตัวจริง เป็นที่รู้จัก และยังคงเคลื่อนไหวอยู่ โดยมี ลักษณะบัญชี 6 แบบต่อไปนี้ที่จะยื่นขอ Verified ได้
- บัญชีทางการของรัฐ
- บัญชีขององค์กร บริษัท หรือแบรนด์
- บัญชีของสำนักข่าวหรือผู้สื่อข่าว
- บัญชีคนหรือกลุ่มวงการบันเทิง
- บัญชีนักกีฬาหรือเกมเมอร์อาชีพ
- บัญชีของนักกิจกรรม ผู้จัดกิจกรรม และบุคคลที่มีอิทธิพลต่อสังคมอื่นๆ (อินฟลูเอนเซอร์)
ผู้ที่ยื่นขอจะต้องมีบัญชีที่ผูกกับอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์จริง มีรูปโปรไฟล์ และชื่อบัญชีที่เหมาะสม โดยบัญชีนั้นอาจจะถูกริบคืนเครื่องหมายได้ในภายหลัง หากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัทบ่อยครั้งหรือฝ่าฝืนรุนแรง
Twitter แจ้งกับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า เจ้าของบัญชีจะได้เห็นแท็บให้กดยื่นขอ Verified ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า เมื่อยื่นขอรับรองไปแล้ว น่าจะได้รับการตอบกลับภายใน 2-3 วัน แต่ก็อาจจะนานไปถึง 2-3 สัปดาห์ได้เหมือนกันถ้าหากมีคนยื่นขอเข้าไปมาก เนื่องจากทุกบัญชีจะถูกตรวจสอบโดยมนุษย์
ถ้าหากผ่านการรับรอง เครื่องหมายถูกจะปรากฏหลังชื่อบัญชีโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าหาก Twitter ปฏิเสธคำขอของคุณ คุณยังสามารถยื่นขอใหม่ได้ภายใน 30 วันหลังการตัดสินใจของบริษัท
สำหรับบัญชีที่จะไม่ได้รับการรับรองแน่นอน เช่น บัญชีคาแร็กเตอร์สัตว์เลี้ยงหรือตัวละครในหนัง/นิยาย บัญชีล้อเลียนเพื่อความบันเทิง (parody) บัญชีกลุ่มแฟนคลับที่ไม่เป็นทางการ บัญชีที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมอันตรายหรือคอนเทนต์สร้างความเกลียดชัง บัญชีที่ละเมิดกฎการใช้งาน เป็นต้น
Twitter ยังระบุด้วยว่า บริษัทจะทยอยเติมหมวดหมู่ที่ขอการรับรองได้ในอนาคต เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ผู้นำทางศาสนา เป็นต้น
เครื่องหมายถูก แค่รับรองหรือสนับสนุนความคิด?
การกลับมาของระบบ Verified เกิดขึ้นหลังจากที่ Twitter เคยปิดระบบรับรองบัญชีนี้ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2017 เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ระบบไปให้การรับรองบัญชีที่มีลักษณะเป็น “บุคคลที่นิยมความเหนือกว่าของชนผิวขาว” (White Supremacist)
ในคราวนั้น Twitter ชี้แจงว่าเครื่องหมายถูกมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การรับรองตัวตนของเจ้าของบัญชีว่ามีอยู่จริง แต่ในทางปฏิบัติ เครื่องหมายถูกในสายตาสาธารณชน เปรียบเสมือนเครื่องหมายสนับสนุนคอนเทนต์ของบุคคลนั้นจากแพลตฟอร์ม ดังนั้น เรื่องจึงยุ่งเหยิงเมื่อแพลตฟอร์มไปให้การรับรองกับคนที่มีความคิดสุดโต่งในสังคม
ก่อนหน้านั้น Twitter มีระบบรับรองตัวตนตั้งแต่ปี 2009 เพื่อช่วยรับรองบัญชีจริงของบุคคลที่เป็นที่รู้จัก ป้องกันการลอกเลียนแบบ แต่ขั้นตอนการขอรับรองนั้นคลุมเครือและไม่ชัดเจนว่าต้องทำอย่างไร จนกระทั่งปี 2016 ที่ Twitter เปิดแท็บให้ยื่นขอ Verified เองได้ทุกบัญชี (แต่จะผ่านการพิจารณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับบริษัท)
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นในปี 2017 ปีนี้ Twitter กลับมาพร้อมกฎระเบียบการได้รับเครื่องหมายถูกที่ชัดเจนขึ้นดังกล่าว
แต่มิใช่ว่าระหว่างปี 2017-2021 บริษัทจะไม่ให้การรับรองกับใครเลย เพราะช่วงนั้นบริษัทยังคงแปะเครื่องหมายถูกให้กับบัญชีแบบเฉพาะเจาะจง เช่น ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รอบปี 2020 หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือที่ทวีตเกี่ยวกับโรคระบาด เป็นต้น
เตรียมเพิ่มเครื่องหมาย “บอท” ให้บัญชีออโต้
แผนในอนาคตของ Twitter ในการทำให้ผู้ใช้รู้จักกับเจ้าของบัญชีนั้นมากขึ้นยังมีอีกเพียบ เช่น ดีไซน์หน้าโปรไฟล์แบบใหม่ ที่จะมีแท็บเพิ่มให้ระบุประวัติของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น สรรพนามที่ต้องการให้เรียก (เธอ/เขา/พวกเขา) เมืองที่อยู่ปัจจุบัน เป็นบัญชีที่มีตัวตนหรือไม่ จนถึงวันเกิดเจ้าของบัญชี
ทั้งนี้ การออกแบบยังเป็นภาพเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่แน่ว่าแพลตฟอร์มจะมีช่องให้กรอกอะไรได้บ้าง ยกเว้นช่องสรรพนามที่จะมีอย่างแน่นอน ตามเทรนด์แอปพลิเคชันหลายรายที่เริ่มมีแล้ว เช่น Instagram, Slack เพื่อให้การสื่อสารระหว่างกันดีขึ้นสำหรับคนที่ต้องการให้คนเรียกสรรพนามของตนอย่างเหมาะสม
ที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งคือ Twitter กำลังพิจารณาเครื่องหมายบัญชีอัตโนมัติ หรือ “บอท” ซึ่งน่าจะเปิดตัวได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ เบื้องต้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับบัญชีบอทคือ หน้าโปรไฟล์จะมีประโยคแนบไว้ว่า “automated account powered by xxx” เพื่อให้รู้ว่าบัญชีนี้ใช้ระบบออโต้และใช้ระบบไหนทำงานอยู่ โดยบริษัทยกตัวอย่างบัญชีบอทที่มีในปัจจุบัน เช่น บัญชีข่าวสภาพอากาศที่จะทวีตอัตโนมัติทุกวัน
น่าสนใจว่าการกลับมาของเครื่องหมายถูกของ Twitter จะทำให้วงการอินฟลูเอนเซอร์ในดินแดนนกสีฟ้าคึกครื้นขึ้นแค่ไหน!