‘ไบเดน’ สานต่อ ‘ทรัมป์’ สั่งแบนบริษัทจีน 59 แห่ง เหตุปัญหาความมั่นคง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ห้ามชาวอเมริกันลงทุนในบริษัทจีน 59 ราย ซึ่งเชื่อว่าเชื่อมโยงกับกองทัพจีน ซึ่งเป็นการขยายคำสั่งบริหาร โดนัลด์ ทรัมป์ในวันที่ 31 พ.ย. 2020

คำสั่งของไบเดนขยายขอบเขตการแบนครอบคลุมบริษัท 59 ราย ซึ่งห้ามไม่ให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในบริษัทเป้าหมาย โดยอ้างถึงภัยคุกคามจากเทคโนโลยีการเฝ้าระวังของจีน และเพื่อป้องกันไม่ให้การลงทุนของสหรัฐฯ สนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของจีน ตลอดจนโครงการวิจัยและพัฒนาด้านการทหาร ข่าวกรอง และความปลอดภัย โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 2 สิงหาคมนี้

โดยบริษัทที่โดนแบนในครั้งนี้มีบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของประเทศหลายราย เช่น Aviation Industry Corp of China (AVIC), China Mobile Communications Group, China National Offshore Oil Corp (CNOOC), Hangzhou Hikvision Digital Technology Co Ltd และ Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) ขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง Huawei ยังคงอยู่ในรายการ

“เราพบว่าการใช้เทคโนโลยีการสอดแนมของจีนนอก PRC และการพัฒนาหรือการใช้เทคโนโลยีการสอดแนมของจีนเพื่ออำนวยความสะดวกในการปราบปรามหรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามที่ผิดปกติและไม่ธรรมดา” ไบเดนกล่าว

ปัจจุบัน ไบเดนกำลังทบทวนนโยบายของสหรัฐฯ ในหลายแง่มุมต่อจีน และฝ่ายบริหารของเขาได้ขยายเส้นตายสำหรับการดำเนินการตามคำสั่งของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะกำหนดกรอบนโยบายใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในเดือนต่อ ๆ ไป สหรัฐฯ จะเพิ่มบริษัทอื่น ๆ ในข้อจำกัดของคำสั่งผู้บริหารชุดใหม่

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนที่กว้างขึ้นของไบเดนในการต่อต้านจีน รวมถึงการเสริมกำลังพันธมิตรของสหรัฐฯ และการแสวงหาการลงทุนภายในประเทศจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอเมริกา ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่แย่ลงระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

CNN, Nikkei Asia