“พฤกษา” ชูกลยุทธ์ใหม่ Tomorrow Reimagined วาง 3 เป้าหมายในการพัฒนา ได้แก่ สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ และความยั่งยืน ทำให้มีสินค้าและบริการใหม่ตอบสนอง ที่เห็นเด่นชัด เช่น “โรงพยาบาลวิมุต” ธุรกิจใหม่ในเครือเดียวกัน สร้างแต้มต่อให้ลูกบ้านพฤกษาได้ “ส่วนลดพิเศษ” ค่ารักษาพยาบาล จูงใจคนเจนวาย-เจนเอ็กซ์
ยุคนี้การขายบ้านไม่ได้ขายแค่ตัวอาคารเท่านั้น แต่แต่ละแบรนด์ต่างพยายามเสริมคุณค่าให้กับบ้านหรือห้องชุดมากขึ้น เพื่อให้สินค้าโดดเด่นในตลาด มีหมัดเด็ดให้ลูกค้าตัดสินใจเลือก โดยกลยุทธ์ของพฤกษาปีนี้จะสร้างนวัตกรรมใหม่มาเสริมทัพ มีโจทย์ตั้งต้นเป็นเมกะเทรนด์ที่บริษัทเล็งเห็น
ปิยะ ประยงค์ Chief Executive Officer บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงที่มาแนวคิดใหม่ในการพัฒนาสินค้าและบริการคือ “พฤกษา ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต Tomorrow Reimagined” แนวคิดนี้มาจากที่พฤกษาเล็งเห็น “เมกะเทรนด์” ของชีวิตและการอยู่อาศัย 3 ด้าน คือ
1.สุขภาพและเวลเนส – คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและใส่ใจทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องการเวชศาสตร์เชิงป้องกัน ไม่รอให้เจ็บป่วยก่อน และต้องการข้อมูลที่รวดเร็ว
2.ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลง – ขณะนี้เห็นสองเรื่องใหญ่ๆ หนึ่งคือ “สังคมผู้สูงอายุ” ทำให้การออกแบบบ้านต้องเหมาะสม สองคือ “Work from Home” ทำให้คนต้องการพื้นที่ทำงานหรือเรียนในบ้าน
3.ความยั่งยืน – โลกร้อน ฝุ่นพิษ PM2.5 ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นหลักของคนรุ่นใหม่ ทำให้พฤกษาต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไข
เมื่อตั้งแนวทางได้แล้ว ทำให้เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากพฤกษาในหลายแง่มุม ทั้งที่ออกสู่ตลาดแล้วและที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้
“พริวิลเลจ” ลูกค้าพฤกษาได้ “ส่วนลด” กับรพ.วิมุต
เรื่องแรกที่น่าจะเป็นที่สนใจในตลาดคือบริการสุขภาพ โดยพฤกษาออกโปรโมชันพิเศษ ลูกบ้านพฤกษาที่โอนบ้านในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับ “พริวิลเลจ” กับโรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลใหม่ในเครือพฤกษาที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อเดือนก่อน โดยพริวิลเลจที่น่าสนใจคือ “ส่วนลด” ค่ายา 10% กับค่าห้องพัก 25% ลดค่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์เหลือเข็มละ 500 บาท และยังได้สิทธิ Telemedicine หาหมอทางไกลฟรี 4 ครั้งด้วย (ขณะนี้กำหนดรับสิทธิได้จนถึง 31 ธ.ค. 64)
การจับคู่หมู่บ้าน/คอนโดมิเนียมกับโรงพยาบาลต่างๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยมีการจัดโปรโมชันร่วมกับโรงพยาบาลอยู่บ้าง แต่ที่น่าสนใจคือครั้งนี้พฤกษามีโรงพยาบาลในเครือของตนเอง ทำให้การสร้างฐาน “พริวิลเลจ” กับลูกบ้านจะเป็นแผนระยะยาวมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น บัตรระดับแพลทินัมและบัตรระดับอีลีท ที่ให้ส่วนลดกับรพ.วิมุตมากกว่า กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ (สิทธิเฉพาะบางโครงการ)
นอกจากนี้ พฤกษายังประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะมีการตั้ง Healthcare Avenue หรือศูนย์สุขภาพขนาดเล็กแบบมีเตียงโรงพยาบาลรองรับ เป็นเหมือนศูนย์แยกของรพ.วิมุต เริ่มทำเลแรกบริเวณ Pruksa Avenue สุขาภิบาล 2 ซึ่งมีหมู่บ้านของพฤกษาอยู่หลายโครงการ ศูนย์นี้สามารถดูแลการเจ็บป่วยเบื้องต้น ตรวจสุขภาพ รับดูแลผู้สูงอายุในช่วงกลางวัน ทำกายภาพบำบัดได้ โดยปิยะแย้มว่า Healthcare Avenue จะมีเพิ่มอีก 2 แห่ง ในย่านรังสิต และคอนโดฯ ย่าน ถ.ประดิพัทธ์
ศูนย์ดังกล่าวเปิดให้บริการเป็นการทั่วไป ไม่ได้จำกัดเฉพาะลูกบ้านพฤกษา แต่น่าสนใจว่าต่อไปลูกบ้านพฤกษาอาจได้รับ “พริวิลเลจ” ร่วมกับศูนย์เหมือนกับโรงพยาบาลก็ได้
“การมีสุขภาพเข้ามาเหมือนเป็นโซลูชัน เรามองว่าน่าจะทำให้คนตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และเราคิดว่าน่าจะโดนใจกลุ่มเจนเอ็กซ์และเจนวายซึ่งเป็นกลุ่มที่ตอนนี้มักจะมีทั้งพ่อแม่และมีลูกๆ ที่ต้องดูแล ทำให้ต้องการโซลูชันสุขภาพเยอะขึ้น” อังคณา ลิขิตจรรยากุล Group Chief Marketing Officer กลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าว (ปัจจุบัน กลุ่ม Gen X คือคนวัย 41-56 ปี และเจนวายคือกลุ่มวัย 25-40 ปี)
ไลฟ์สไตล์ “เปลี่ยน” และ “แตกต่าง”
อีกมุมที่น่าสนใจคือเทรนด์ด้านไลฟ์สไตล์คนที่เปลี่ยนเร็วและแตกต่างด้วย โดย “สมภพ สันติวัฒนกุล” Head of Innovation & Strategy บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ฉายภาพว่ายุคนี้คนที่เข้ามาชมบ้านโครงการเดียวกัน อาจมีไลฟ์สไตล์คนละแบบกัน บางคนเป็นคู่ที่ไม่มีลูก บางคนมีลูก บางคนมีพ่อแม่อาศัยอยู่ด้วย ทำเลและแบบบ้านภายนอกอาจถูกใจแล้ว แต่มาต่างกันที่ฟังก์ชันในบ้าน
ทำให้พฤกษาเปิดตัวนวัตกรรม Pruksa Flex เป็นการออกแบบบ้านให้ไม่ต้องใช้กำแพงกั้นห้องช่วยรับน้ำหนัก กำแพงเหล่านี้จึงยกย้ายเปลี่ยนฟังก์ชันห้องได้ โดยลูกค้าสามารถแจ้งกับโครงการตั้งแต่ซื้อบ้านว่าต้องการฟังก์ชันแบบไหน เช่น ต้องการมี 1, 2 หรือ 3 ห้องนอน และกำแพงเหล่านี้สามารถเจาะรูได้ตามปกติ พร้อมฉนวนกันเสียง
สมภพระบุว่า บริการ Pruksa Flex จะเปิดตัวนำร่องปีนี้ก่อน 2 โครงการในทาวน์เฮาส์แบรนด์บ้านพฤกษา ย่านประชาอุทิศกับย่านรังสิต ในแง่ค่าใช้จ่ายจะคิดตามจริง หากปรับเปลี่ยนกำแพงแล้วต้นทุนลดลง พฤกษาจะ ‘มีทอน’ ให้ลูกค้าด้วย
(*กำแพงดังกล่าว หากลูกค้าอยู่อาศัยไประยะหนึ่งแล้วต้องการปรับแก้ สามารถจ้างช่างหรือผู้รับเหมาดูแลออกแบบและยกย้ายได้เลย เพราะไม่มีผลกระทบกับโครงสร้าง)
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่พฤกษามีเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ คือ แพลตฟอร์ม ASKURP (แอสครัป) เป็นตัวกลางระหว่างลูกบ้านพฤกษาที่ต้องการขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ จับคู่เข้ากับกลุ่มนักลงทุนรีโนเวตบ้านเก่าเพื่อขายใหม่ โดยแอสครัปไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทำให้ลูกบ้านอุ่นใจขึ้นว่าถ้าชีวิตมีความเปลี่ยนแปลง ต้องย้ายบ้าน การขายบ้านเก่าจะง่ายขึ้น
ปิดท้ายเรื่องความยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อม พฤกษามีหลายๆ ฟังก์ชันและโครงการที่เกี่ยวข้อง เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดไฟส่วนกลาง ร่วมมือกับโครงการ “วน” รีไซเคิลพลาสติก นโยบายลดใช้กระดาษในองค์กร เป็นต้น
ต้องติดตามต่อว่าภายใต้แนวคิดใหม่จับ “เมกะเทรนด์” ของพฤกษา จะมีการพัฒนานวัตกรรมอะไรออกมาอีกบ้าง!