เดือนมิถุนายนของทุกปีคือ “Pride Month” เดือนแห่งการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของชาว LGBTQI+ ตลอดเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานของเท่าเทียมทางเพศ หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมสนับสนุนอย่างเต็มตัวคือ “เจนเนอราลี่” บริษัทประกันที่อนุมัติให้ใช้ชื่อ “คู่ชีวิต” เพศเดียวกันเป็นผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์มาตั้งแต่ปี 2017 และสนับสนุนความหลากหลายทุกมิติภายในบริษัท
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หนึ่งในประเด็นที่ชาว LGBTQI+ เรียกร้องเพื่อสิทธิแห่งความเท่าเทียม คือการระบุให้ “คู่ชีวิต” เป็นผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตได้ ซึ่งในอดีตจะเป็นสิทธิเฉพาะญาติสายเลือดเดียวกันหรือคู่สมรสต่างเพศ ทำให้คู่ชีวิต LGBTQI+ มีข้อจำกัด แม้ว่าจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้วและต้องการดูแลกันตลอดชีวิตก็ตาม
“เจนเนอราลี่” ถือเป็นประกันเจ้าแรกๆ ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญ ก้าวเข้ามาผลักดันความเท่าเทียมทางเพศของ LGBTQI+ ตั้งแต่ปี 2017 ผ่านการออกนโยบาย Gen Love Wins: Insurance For All วางคอนเซ็ปต์ “เพราะความรักชนะทุกสิ่ง” และทุกความรักต้องการการปกป้องเสมอ ปลดล็อคปกป้องทุกความรักและทุกเฉดสีที่เป็นคุณ พร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต
ในขณะที่คู่รักเพศเดียวกันในไทยอาจยังไม่ได้รับการรับรองให้จดทะเบียนสมรสได้ เจนเนอราลี่ได้เปิดกว้างให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถระบุชื่อกันและกันในฐานะ “คู่ชีวิต” เป็นผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตได้ เพียงแสดงหลักฐานการใช้ชีวิตร่วมกัน เช่น ภาพถ่ายบนโซเชียลมีเดีย ภาพถ่ายการสมรส หลักฐานการซื้อหรืออยู่บ้านเดียวกัน หลักฐานการทำธุรกิจร่วมกัน ทะเบียนสมรส (กรณีจดทะเบียนในต่างประเทศ)
นอกจากนี้ เจนเนอราลี่ยังมีการพัฒนากรมธรรม์รวมถึงความคุ้มครองให้ตอบโจทย์กลุ่ม LGBTQI+ มาตลอด 4 ปี ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ประกันที่จะช่วยดูแลให้คู่รักเพศเดียวกันใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
“เจนเนอราลี่ สนับสนุนสิทธิความเท่าเทียมและไม่ปิดกั้นขอบเขตความแตกต่างทางเพศ เราเปิดกว้างเพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบของความรัก เปิดโอกาสให้คู่ชีวิตเพศเดียวกันสามารถระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ว่า “คู่ชีวิต” ผ่านแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองและส่งเสริมการวางแผนชีวิตคู่ ซึ่งเรามีครอบคลุมทั้งแบบประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันสะสมทรัพย์ เพื่อให้คู่รัก LGBTQI+ สามารถวางแผนสร้างหลักประกันความคุ้มครองที่มั่นคงกันไปตลอดทั้งชีวิต” บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าว
ทั้งนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เปิดกว้างต่อความหลากหลายของเจนเนอราลี่นั้น มาจากจุดตั้งต้นภายในบริษัท ที่เจนเนอราลี่มีนโยบายยอมรับความแตกต่างหลากหลายภายในองค์กร (D&I : Diversity and Inclusion) ไม่ว่าจะเป็นด้านเพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ไปจนถึงความบกพร่องทางร่างกาย บริษัทฯได้รับการขับเคลื่อนด้วยพลังจากพนักงานที่หลากหลาย ไร้ข้อจำกัดด้านเพศสภาพ และไม่มีนโยบายกีดกันการรับพนักงานกลุ่ม LGBTQI+ เข้าทำงานแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับต้องการสนับสนุนการสร้างสรรค์งานร่วมกันบนความหลากหลายในพื้นฐาน “It’s our differences that make the difference!”
คุณบัณฑิตอธิบายว่า การยอมรับความแตกต่างหลากหลายหรือ D&I นี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพองค์กร เพราะมุมมอง ไลฟ์สไตล์ และประสบการณ์ที่หลากหลายของพนักงานที่แตกต่างกัน จะทำให้บริษัทสร้างสรรค์ได้มากกว่า มีโอกาสรับมือกับโจทย์ที่เข้ามาได้มากกว่า เพราะความแตกต่างคือสิ่งที่สร้างให้เจนเนอราลี่แตกต่างจากรายอื่นๆ
จุดหมายปลายทางของการรวมความหลากหลายเหล่านี้ เป็นไปก็เพื่อการพัฒนาศักยภาพองค์กร ให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเจนเนอราลี่ให้ได้ดียื่งขึ้น เป็น ‘Lifetime Partner’ เคียงข้างทุกช่วงชีวิตของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับการลุกขึ้นยืนหยัดเคียงข้างลูกค้า LGBTQI+ ในแคมเปญ Gen Love Wins: Insurance For All นี้มาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว
“เราสนับสนุน “Pride Month” มากกว่าแค่เปลี่ยนโลโก้เป็นสีรุ้งในช่วงเวลาแค่เดือนเดียว ด้วยการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงให้กับสังคม เพื่อชาว LGBTQI+ ได้ใช้ชีวิตได้อย่างภาคภูมิใจและมีความเท่าเทียม เราพร้อมเคียงข้างและประกันทุกความรักของคุณ” คุณบัณฑิตกล่าวปิดท้าย