บริษัทเวชภัณฑ์ของอินโดนีเซียเลื่อนแผนการจำหน่ายวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” ให้แก่ประชาชนโดยตรง หลังมีข้อท้วงติงจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขว่ากลยุทธ์การตลาดเช่นนี้อาจสร้างความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งรัฐบาลอินโดนีเซียก็มีนโยบายฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ฟรีให้แก่ประชากรทุกคนอยู่แล้ว
เสียงวิพากษ์วิจารณ์มีขึ้นท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่พุ่งทุบสถิติ ซึ่งทำให้ระบบสาธารณสุขในบางพื้นที่ของเกาะชวาอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างหนัก
บริษัท คีเมีย ฟาร์มา (Kimia Farma) เป็นรัฐวิสาหกิจด้านยาและเวชภัณฑ์ของอินโดนีเซีย ออกมาประกาศวันนี้ ว่าจะเลื่อนการจำหน่ายวัคซีนซิโนฟาร์มออกไปก่อน และขอเวลาเตรียมคำชี้แจงต่อประชาชน
“เราขอเลื่อนการจำหน่ายวัคซีนออกไปก่อน หลังจากที่มีผู้ให้ความสนใจอย่างมาก” โนเวีย วาเลนตินา โฆษก คีเมีย ฟาร์มา อาโปเทก (Kimia Farma Apotek) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ คีเมีย ฟาร์มา ให้สัมภาษณ์
ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทประกาศจะนำวัคซีนซิโนฟาร์มมาจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไปในราคา 879,140 รูเปียะห์ต่อวัคซีน 2 โดส (ราว 1,978 บาท) เพื่อช่วยเร่งการสร้าง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ในแดนอิเหนา แต่มีเสียงสะท้อนจากบุคลากรด้านสาธารณสุขว่าเวลานี้ควรจะเน้นฉีดวัคซีนฟรีให้แก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
“ต่อไปหากมีวัคซีนมากพอแล้ว เราอาจจะเปิดทางเลือกสำหรับการซื้อวัคซีน แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ดียาห์ ซามีนาร์ซิห์ หนึ่งในที่ปรึกษาอาวุโสของเลขาธิการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุ
กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยขอให้สื่อไปสอบถามรายละเอียดจาก คีเมีย ฟาร์มา เอาเอง
อินโดนีเซียเริ่มกระจายวัคซีนซิโนฟาร์มผ่านโครงการที่ให้บริษัทเอกชนสามารถสั่งซื้อวัคซีนไปฉีดให้แก่พนักงานของตนเองได้
ปัจจุบันอินโดนีเซียมียอดติดเชื้อสะสมกว่า 2.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ประมาณ 64,000 คน ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าสถานการณ์โรคระบาดแดนอิเหนาอาจรุนแรงกว่าที่สถิติทางการประกาศ เนื่องจากยังมีการตรวจเชื้อน้อยมาก
งานวิจัยด้านเซรุ่มวิทยาที่เผยแพร่โดยฝ่ายบริหารกรุงจาการ์ตาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วพบว่า ประชากรจาการ์ตา 44.5% หรือประมาณ 4.7 ล้านคนจากทั้งหมด 10.6 ล้านคน มีภูมิคุ้มกันต่อ COVID-19 แล้วในเดือน มี.ค.