จากแอปฯ โซเชียลมีเดียที่จำกัดการเข้าถึง ต้องได้รับคำเชิญ (invite) จากคนในแอปฯ ถึงจะเข้าไปเล่นได้ วันนี้ Clubhouse เปิดระบบเป็น ‘สาธารณะ’ เต็มตัวแล้ว ทุกคนสมัครแล้วสามารถเข้าใช้ได้เลย ไม่ต้องรอคำเชิญอีก
ที่ผ่านมา Clubhouse สร้างกำแพงให้เป็น ระบบ ‘invite-only’ โดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อให้มีความพรีเมียม แต่เป็นเพราะแอปพลิเคชันนี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2020 และยังอยู่ในช่วงทดลองระบบเบตา ทำให้ต้องจำกัดจำนวนคนใช้งานไว้ก่อน ป้องกันระบบล่ม แต่แอปฯ เกิดฮิตเกินคาดจนทำให้ระบบคำเชิญกลายเป็นเหมือนสิทธิพิเศษ
“พอล เดวิดสัน” และ “โรฮาน เซธ” ผู้ร่วมก่อตั้ง Clubhouse ระบุว่า บัดนี้ระบบขยายตัวพร้อมที่จะป้องกันระบบไม่ให้ล่มแล้ว จึงออกจากระบบเบตา และเปิดเป็นสาธารณะในที่สุด
การเติบโตของ Clubhouse เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ เริ่มต้นมีผู้ใช้งานเพียง 5,000 คน แต่เกิดฮิตขึ้นมาในซิลิคอน วัลเลย์ เมื่อมีคนดังช่วยบอกต่อ ทำให้ปัจจุบันแอปฯ มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกมากกว่า 20 ล้านครั้ง โดยครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ใช้ระบบแอนดรอยด์ที่เพิ่งได้ใช้กับเขาบ้างเมื่อ 2 เดือนก่อน (ข้อมูลจาก Sensor Tower)
ปัจจุบันมีการตั้งห้องทั้งแบบสาธารณะและส่วนตัววันละประมาณ 5 แสนห้องทั่วโลก เติบโตขึ้นเกือบ 70% เทียบกับเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 เห็นได้ว่ายอดการเติบโตเกิดจากผู้ใช้แอนดรอยด์
ผู้ใช้ Clubhouse จะอยู่ในแอปฯ เฉลี่ยวันละ 1 ชั่วโมง และมีการส่งข้อความส่วนตัว (direct message) ภายในแอปฯ แล้ว 90 ล้านข้อความ หลังจากที่แอปฯ เพิ่งเปิดฟีเจอร์นี้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
Clubhouse ยังคงต้องหาที่ทางของตนเองว่าจะเป็นแอปฯ ที่แข็งแรงในแง่มุมไหน โดยขณะนี้แอปฯ ถูกมองว่ามีแนวโน้มจะเป็นแหล่ง ‘จัดรายการวิทยุ/พอดคาสต์แบบสด’ ผสมกับการเป็น ‘เวทีเสวนา’ ทำให้แอปฯ กำลังหาช่องทางสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านี้อยู่ เช่น คิดเงินค่าเข้าฟังโดยแบ่งรายได้กับผู้จัดห้องเสียงนั้นๆ
สำหรับในไทย Clubhouse เคยร้อนแรงสุดขีดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 แม้ปัจจุบันจะคลายความร้อนแรงไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานสม่ำเสมอ มีการพูดคุยหลายเรื่องตั้งแต่การเมือง สุขภาพ บิตคอยน์ กีฬา ฯลฯ