เปิด 9 อินไซต์นักช้อปยุคโควิด ‘ซื้อถี่ขึ้น’ แต่ยอดซื้อลด 30%

การทวีความรุนแรงของโรค COVID-19 รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้อีคอมเมิร์ซกลายมาเป็นช่องทางสำคัญสำหรับผู้บริโภค และกลายเป็นช่องทางหลักของพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้ในการขายของ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้ไปต่อได้ โดย ลาซาด้า ก็ได้มาเปิดเผยถึงสถิติน่าสนใจจากผู้บริโภคบนแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นแนวทางให้แบรนด์และร้านค้าปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค

ซื้อ ถี่ แต่มูลค่า ลดลง

ในปี 2021 นี้ผู้บริโภคเข้ามาซื้อสินค้าถี่ และอยู่บนแพลตฟอร์มนานขึ้น โดยพบว่าผู้บริโภคใช้เวลาเฉลี่ยบนแอปฯ ต่อเดือน มากกว่า 70 นาที และความถี่ในการเข้ามาใช้งานเฉลี่ยเดือนละ 7 ครั้งต่อคน

และเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ทำให้ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้ง (Average budget size spending) ของผู้บริโภคลดลงถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับยอดการใช้จ่ายในปี 2563 ดังนั้น การทำสินค้าเป็น เซต พร้อมโปรโมชันช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับสินค้าและบริการ จูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ผู้ใช้ต่างจังหวัดแซงคนกรุง

แรกเริ่มสัดส่วนนักช้อปลาซาด้าอยู่ที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ เป็นหลัก แต่ปัจจุบันยอดนักช้อปบนแอปฯ มากถึง 85% อาศัยอยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยได้ปรับตัวหันมาช้อปออนไลน์จากการล็อกดาวน์ครั้งแรกจนเกิดปรากฏการณ์ New Normal และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ สัดส่วนอายุของนักช้อปออนไลน์ โดยพบว่าผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Y มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และมีสัดส่วนมากกว่า 70% ของผู้ใช้งานทั้งหมด โดยผู้หญิงคิดเป็นสัดส่วน 52% ทำให้สินค้า อาทิ สกินแคร์ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดอีคอมเมิร์ซ ขณะที่ปริมาณนักช้อปชายที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้จำนวนร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าสำหรับผู้ชายก็เติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2563

สุขภาพและดิจิทัล 2 กลุ่มมาแรง

สินค้ายอดฮิตยังคงเกี่ยวข้องกับโรค COVID-19 รวมไปถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำ Home Isolation เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจนจากปลายนิ้ว ถุงขยะสีแดงมีหูผูกสำหรับขยะติดเชื้อ เป็นต้น โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สินค้าในกลุ่มเหล่านี้มีความต้องการเพิ่มมากถึง 70%

ขณะที่ สินค้าดิจิทัล (Digital Goods) มาแรง เช่น บัตรเติมเงินมือถือ บัตรกำนัล ประกัน แพ็กเกจตรวจสุขภาพ ใบจองคอนโดฯ โดยที่ผ่านมายอดขายแพ็กเกจตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลต่าง ๆ บนลาซาด้าเติบโตขึ้นถึง 1,000% สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ และนั่นหมายความว่าในอนาคตไม่ว่าอะไรก็สามารถขายบนช่องทางออนไลน์ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าที่จับต้องได้อีกต่อไป

ทั้งนี้ จากรายงาน Future Shopper 2021 ของวันเดอร์แมน ธอมสัน พบว่าคนไทย 82% นิยมซื้อของจากแบรนด์ที่มีร้านทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การมีร้านทั้งสองช่องทางจะช่วยให้แบรนด์ชนะใจผู้บริโภคง่ายขึ้น โดยที่ผ่านมา หลายแบรนด์ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงผู้บริโภคจากการเปิดร้านบน LazMall  ปัจจุบัน ลาซาด้ามีแบรนด์บน LazMall มากกว่า 9,000 แบรนด์ เพิ่มขึ้น 350% จากปี 2563

ส่งฟรี ยังดึงดูดเสมอ

นักช้อปคาดหวังในบริการด้านการจัดส่งมากขึ้น การจัดส่งสินค้าฟรีจึงเป็นแต้มต่อให้กับร้านค้า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นักช้อปใช้คูปองจัดส่งสินค้าฟรีบนแอปฯ ลาซาด้าไปแล้วถึง 117 ล้านครั้ง โดยผู้ขายที่มีโปรโมชันส่งสินค้าฟรีพบว่ามียอดขายเพิ่มมากขึ้นถึง 40% นอกจากนี้ โครงการอื่นๆ ของลาซาด้า เช่น แคมเปญเลขคู่ หรือฟีเจอร์ช้อป 9 บาททุกวัน ก็ช่วยดันยอดขายให้ร้านค้าได้เติบโต 560%