เสียวหมี่ (Xiaomi) ยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ของจีนที่เพิ่งขึ้นเบอร์ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกมาหมาด ๆ ล่าสุด ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทสตาร์ทอัพด้านการขับรถอัตโนมัติ ส่งสัญญาณว่าบริษัทเตรียมลงเข้าแข่งขันในตลาดยานยนต์ที่กำลังมีการแข่งขันสูง พร้อมกับพยายามสร้างรายได้ที่หลากหลายให้กับธุรกิจนอกเหนือจากสมาร์ทโฟน
ย้อนไปเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เสียวหมี่ ได้ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวธุรกิจ รถยนต์ไฟฟ้า และเตรียมเงินลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยล่าสุด เสียวหมี่ประกาศว่าได้ซื้อบริษัทสตาร์ทอัพ Deepmotion ด้วยมูลค่าประมาณ 77.37 ล้านดอลลาร์ เพื่อ ”เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางเทคโนโลยี” ของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า
“การเข้าซื้อกิจการสามารถช่วยนำคุณสมบัติการขับขี่อัตโนมัติมาสู่รถยนต์ที่เสียวหมี่จะผลิตขึ้นในที่สุด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พัฒนาโดยผู้ผลิตรถยนต์หลายรายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายุคหน้า”
รอลุ้น! Xiaomi เตรียมเปิดตัว ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ โดยใช้โรงงานผลิตของ Great Wall Motor
ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่เสียวหมี่ที่กำลังพยายามเข้ามาในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและการขับขี่แบบติโนมัติ แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อีกหลายรายในจีนก็พยายามจะรุกตลาดดังกล่าวมากขึ้นเช่นกัน อาทิ Baidu, Huawei, Alibaba และ Didi
ทั้งนี้ บริษัทประกาศการเข้าซื้อกิจการ Deepmotion หลังจากรายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 โดยรายได้เติบโตขึ้น 64% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปี 2020 คิดเป็น 87.8 พันล้านหยวน ขณะที่มีกำไร 6.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 87.4% โดยเสียวหมี่ระบุว่ารายได้รวมและกำไรสุทธิที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนยังคงเป็นสัดส่วนหลัก คิดเป็น 67.3% ของรายได้ทั้งหมด โดยบริษัทพยายามลดการพึ่งพาโทรศัพท์มือถือด้วยการผลักดันไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่น ๆ และบริษัทหวังว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่