เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 นี้ ได้ฤกษ์เผยโฉมโลโก้ใหม่อย่างเป็นทางการทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยแล้วอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่ 40 ของสตาร์บัคส์ที่ถือกำเนิดขึ้นในโลก และก้าวสู่ปีที่ 13 ในไทย กับจำนวน 138 สาขา
สุมนพินทุ์ โชติกะพุกกะณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ไทยแลนด์ บอกกับ “POSITIONING” ว่า สิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นคือ Key Visual Decoration ต่างๆ ที่นำโลโก้ใหม่ไปใช้ทั้งแก้วกาแฟแบบทูโก ผ้ากันเปื้อนของบาริสต้า และบัตรสตาร์บัคส์ ส่วนกระดาษทิชชู่ กล่องและถุงกระดาษ จะเป็นเฟสต่อไป
ด้านเมอร์ชั่นไดซิ่งที่เป็นโลโก้เดิมจะยังคงจำหน่ายต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน (กระทั่งตุลาคม 2554) โดยที่เมอร์ชั่นไดซิ่งโลโก้ใหม่จะยังไม่มีวางจำหน่าย ขณะที่ Light Box จะทยอยเปลี่ยนภายใน 1-2 ปี ให้ครบทุกสาขา เพราะเราสตาร์บัคส์เป็นกรีน คอมปะนี ไม่อยากรื้อของเดิมทุกอย่างออกไปในทันทีทันใด และมันเป็นต้นทุนที่ต้องค่อยๆเปลี่ยนแปลง นโยบายบริษัทแม่มี Priority มาให้
“โลโก้ใหม่สะท้อนถึงความทันสมัยของสตาร์บัคส์ สีเขียวเป็นสีเขียวอ่อนที่ดูสดใสมากขึ้น นางไซเรนยังอยู่ แต่จะมีใบหน้าเรียวเล็กลง หางตายกขึ้นเล็กน้อย และมีผมสยายมากขึ้น”
นอกจากนี้ยังมีการนำกาแฟอาราบิก้า 100% Starbucks Tribute Blend ซึ่งเกิดจากการเบลนด์เมล็ดกาแฟจาก 3 ทวีป มาจำหน่าย รวมถึงแนะนำเครื่องดื่มใหม่อย่าง Cocoa Cappuchino พร้อมกันทั่วโลกอีกด้วย
ขณะที่ www.starbucks.co.th ก็มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เปลี่ยนเฉพาะหน้าโฮมเพจเท่านั้น คาดว่าอีกไม่นานจะทยอยปรับเปลี่ยนโลโก้ให้ครบในทุกหน้า
“ผลตอบรับของโลโก้ใหม่ Positive กว่าที่คิด ในแก้วทูโกที่นำโลโก้ใหม่มาใช้ ด้านหลังยังมีคำว่า STARBUCKS อยู่ ตัดทิ้งแต่คำว่า COFFEE ทิ้งไป เพื่อการขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้มากขึ้นโดยไร้อุปสรรคหรือป้องกันความสับสนของผู้บริโภค เช่น เรามีชา เดิมก็ใช้ว่า STARBUCKS COFFEE TEA และไอศกรีมก็ใช้ว่า STARBUCKS COFFEE Vanila Icecream แล้ววงเล็บต่อท้ายว่า No Coffee เพราะไม่เช่นนั้นคนที่ไม่ทานกาแฟเขาก็จะเข้าใจว่าไอศกรีมวานิลาแต่มีกาแฟ โดยความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้โปรดักส์ของสตาร์บัคส์ชัดเจนขึ้น”
พร้อมกันนี้ในช่วงที่กระแสโลโก้ใหม่เพิ่งเริ่ม จึงจัดโปรโมชั่นต่อเนื่องพร้อมกับแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ไปในตัว กับงาน Tribute Days หากลูกค้าสั่งเครื่องดื่มที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วไทย ในช่วงเวลา 11.00-13.00 น. เฉพาะวันที่ 11 มีนาคม จะได้รับ Starbucks Petties หรือขนมหวานรูปแบบใหม่ ไซส์เล็กจากสตาร์บัคส์ฟรี อาทิ Birthday Cake Pop ซึ่งให้พลังงาน 200 แคลอรี เหมาะกับการลิ้มรสยามบ่าย สอดรับกับเทรนด์สุขภาพที่แม้คนจะรักสุขภาพมากขึ้นแต่ก็ไม่ปฏิเสธขนมหวาน โดยจะเลือกในบริโภคในขนาดและปริมาณที่พอเหมาะ
“เป็นเทรนด์ใหม่เหมือนกับคัพเค้กในปีที่แล้ว Cake Pop เป็น เค้กเดินได้ เหมือน Finger Foods ปกติเค้กจะเป็นชิ้นใหญ่ต้องมาแชร์กัน แต่ Starbucks Petties สามารถทานคนเดียวได้ ในขนาดที่พอเหมาะ เจาะกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น แม้กระแสสุขภาพจะมาแรงแต่คนก็ยังชอบทานขนมหวานอยู่ แต่เมื่อมีขนาดเล็กลง พวกเขาก็รู้สึกผิดต่อตัวเองน้อยลง”
ขณะเดียวกันในห้วงเวลาที่สตาร์บัคส์ได้รับการจดจ้องนี้ “กรีนสโตร์” จะเป็นอีกประเด็นที่สตาร์บัคส์จะหยิบมาพูดคุยกับผู้บริโภคอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่อย่างน้อยๆ การใช้โลโก้ใหม่ที่โปร่งโล่งกว่าเดิม ก็ลดปริมาณการใช้หมึกพิมพ์ลงไปได้
นับเป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะกับการเฉลิมฉลอง หลังจากเผชิญวิกฤตเมื่อ 3 ปีก่อน และกลับมามีผลประกอบการที่ดีอีกครั้ง โดยในไทยปี 2554 มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 10 สาขา ขณะนี้เปิดไปแล้ว 4 แห่ง โดยสาขาล่าสุดที่กำลังจะเปิดคือที่ เซอร์เคิ้ล ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นสาขาแบบกรีน สโตร์ โดยมีที่จอดรถจักรยานอย่างเป็นกิจจะลักษณะด้วย
อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แนะนำก็ยังอยู่ในไลน์ของกาแฟและเบเกอรี่ แต่เธอบอกว่าสตาร์บัคส์ ประเทศไทย เตรียมจำหน่าย “Onward : How Starbucks Fought For Its Life Without Losing Its Soul” หนังสือเล่มใหม่ของ Howard Schultz ผู้ก่อตั้งสตาร์บัคส์ ในแต่ละสาขา เร็วๆนี้