แรงงานสหรัฐฯ แห่ ‘ลาออก’ แม้ประกาศงานลดลง เพราะยังกลัว ‘โควิด’

Photo : Shutterstock
กรมแรงงานของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคมพบอัตราการลาออกเพิ่มขึ้นเป็น 4.3 ล้านคน ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2543 และเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านคนในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเทียบเท่ากับเกือบ 3% ของแรงงาน และแม้จะมีการลาออกจำนวนมากขึ้น แต่จำนวนการจ้างงานยังชะลอตัวลง โดยจำนวนงานว่างลดลงเหลือ 10.4 ล้านตำแหน่ง จากระดับสูงสุดที่ 11.1 ล้านในเดือนก่อนหน้า

มีการคาดการณ์ว่า การลาออกที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประชาชนมีความกลัวเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์เดลตา ที่ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนสิงหาคม ทำให้เกิดการลาออกเพิ่มมากขึ้นในสายงานร้านอาหารและโรงแรม รวมถึงงานบริการอื่น ๆ อาทิ พนักงานร้านขายของและห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ คนจำนวนมากที่ตกงานก็ไม่กล้าที่จะหางานทำ

แรงงานเกือบ 900,000 คนออกจากงานในร้านอาหาร บาร์ และโรงแรมในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 21% จากเดือนกรกฎาคม ส่วนแรงงานจากฝั่งค้าปลีกเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิต การก่อสร้าง การขนส่ง และคลังสินค้า มีการลาออกเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนงานที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ อาทิ กฎหมาย วิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรม นั้นแทบไม่มีการลาออก

นอกจากปัจจัยด้านความกลัว COVID-19 แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อาทิ ค่าแรงที่สูงขึ้น ทำให้นายจ้างจำนวนมากไม่สามารถขึ้นเงินเดือนได้ตามที่เรียกร้อง ทำให้พนักงานเลือกจะย้ายงาน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลระบุเมื่อวันศุกร์ว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนกันยายน แต่ก็มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่ง แม้ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงเหลือ 4.8% จาก 5.2% และจากรายงานจากการสำรวจการเปิดงานและการหมุนเวียนแรงงานหรือ JOLTS แสดงให้เห็นว่า การจ้างงานทั้งหมดในเดือนสิงหาคมลดลงอย่างรวดเร็วเป็น 6.3 ล้านจาก 6.8 ล้านในเดือนกรกฎาคม

แม้การที่คนงานลาออกจำนวนมากมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดงาน เนื่องจากคนมักจะออกจากงานเมื่อมีตำแหน่งอื่นอยู่แล้วหรือมั่นใจว่าสามารถหางานได้ แต่ความจริงคือ การลาออกที่เพิ่มขึ้นนั้นกระจุกตัวอย่างหนักในภาคส่วนที่มีการติดต่อใกล้ชิดกับสาธารณชนเป็นสัญญาณว่าความกลัวต่อ COVID-19 ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน หลายคนอาจจะลาออกแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีงานทำ

ทั้งนี้ การลาออกก็เพิ่มขึ้นมากที่สุดในภาคใต้และมิดเวสต์ โดยรัฐบาลกล่าวว่า ทั้งสองภูมิภาคมีการระบาดของ COVID-19 รุนแรงที่สุดในเดือนสิงหาคม

Source