“ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” ส่งมอบโครงการลดลง 1 ใน 3 ในช่วงเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ซัพพลายเออร์หลายแห่งเผยบริษัทได้รับชำระหนี้เป็น “อสังหาฯ” แทนเงินสด สะท้อนสภาวะที่ยังสั่นคลอนของบริษัท แม้จะทยอยจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่เลยกำหนดชำระ แต่ยังมีเส้นตายชำระหนี้รออยู่อีก
บริษัท “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์จีนที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อช่วงกลางปีและกลายเป็นความเสี่ยงต่อตลาดเงินทั่วโลก แม้จะยังยืนขอบปากเหว แต่บริษัทยังประกาศตัวว่าสามารถส่งมอบโครงการให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และจ่ายชำระหนี้ให้กับซัพพลายเออร์ได้ตามที่รัฐบาลกลางของจีนสั่งการ
เอเวอร์แกรนด์ประกาศผ่านบัญชี WeChat ทางการของบริษัทว่า บริษัทส่งมอบบ้านไปแล้ว 57,462 หน่วยจาก 184 โครงการทั่วประเทศจีน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการส่งมอบบ้านที่ว่านั้นตกลงฮวบฮาบเมื่อเดือนตุลาคม โดยบริษัทมีการส่งมอบบ้านไปเพียง 7,568 หน่วยเมื่อเดือนก่อน ซึ่งคิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งมอบเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพคล่องของบริษัทเริ่มมีปัญหามากขึ้น
“การสร้างความมั่นใจว่าบริษัทจะส่งมอบบ้านได้คือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของเอเวอร์แกรนด์” บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเสิ่นเจิ้นระบุบน WeChat “ทุกคนในบริษัทนี้ที่นำโดย ฮุยคายัน ประธานบริษัท ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะส่งมอบโครงการคุณภาพด้วยกำลังสูงสุดและด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามที่เป็นไปได้”
ในรายงานภายในเมื่อเดือนสิงหาคม ฮุยคายันยอมรับว่ายอดหนี้หลายพันล้านหยวนที่ต้องจ่ายให้ซัพพลายเออร์ยังคงค้างชำระ และทำให้โครงการที่อยู่อาศัยบางแห่งของบริษัทหยุดการก่อสร้างไปชั่วคราว
เมื่อสภาพคล่องสะดุดลงทำให้บริษัทต้องจ่ายหนี้ซัพพลายเออร์เป็นอสังหาฯ แทนเงินสด เช่น D&O Home Collection ซัพพลายเออร์เฟอร์นิเจอร์ ระบุว่าบริษัทได้รับชำระหนี้เป็นอสังหาฯ จากเอเวอร์แกรนด์ คิดเป็นมูลค่า 39 ล้านหยวน หรือ WorldUnion โบรกเกอร์อสังหาฯ ก็บอกเช่นกันว่า บริษัทได้รับชำระหนี้เป็นแฟลตมูลค่ารวม 253 ล้านหยวนแทน
สำหรับการชำระหนี้หุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์ เมื่อเดือนก่อนบริษัทมีการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ไปแล้ว 2 ชุด มูลค่ารวม 128.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นดอกเบี้ยที่เกินกำหนดชำระมาแล้ว 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ดีเวลอปเปอร์ยักษ์ที่มีหนี้พอกพูนมหาศาลก็ยังไม่พ้นอันตราย เพราะเส้นตายการชำระหนี้ครั้งต่อไปกำลังใกล้เข้ามา ดอกเบี้ยหุ้นกู้มูลค่า 82.5 ล้านเหรียญสหรัฐจะต้องชำระภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้