“สเวนเซ่นส์” กระตุกตลาด “ไอศกรีมเค้ก” เพิ่มไซส์เล็ก 1.5 ปอนด์ ทานได้ทุกวัน ไม่ใช่แค่เทศกาล

สเวนเซ่นส์กระตุ้นตลาดไอศกรีมเค้กช่วงโค้งสุดท้ายของปี ปรับโฉม พร้อมเพิ่มไซส์เล็ก 1.5 ปอนด์ กระตุ้นการบริโภคให้สามารถทานได้ทุกโอกาส ไม่ใช่แค่วันพิเศษเพียงอย่างเดียว

ทำไมไอศกรีมเค้กต้องขนาด 3 ปอนด์

นอกจากไอศกรีมที่เป็นโปรดักส์ฮีโร่ของสเวนเซ่นส์แล้ว ยังอีก “ไอศกรีมเค้ก” ที่อยู่คู่กับแบรนด์มายาวนานกว่า 30 ปีเช่นกัน ที่ผ่านมาสเวนเซ่นส์ไม่ได้ทำการตลาดมากนัก แต่ก็สามารถครองตลาด เป็นเบอร์ 1 ในตลาดไอศกรีมเค้กได้

ตลาดไอศกรีมเค้กในปัจจุบันมีมูลค่า 700 ล้านบาท มีการเติบโต 8% มีผู้เล่นใหญ่ประมาณ 4 แบรนด์ สเวนเซ่นส์ มีส่วนแบ่งตลาด 50% รองลงมาก็คือแดรี่ควีน แบรนด์ไอศกรีมภายใต้ครอบครัวไมเนอร์ ฟู้ดเช่นเดียวกัน ซึ่งตลาดไอศกรีมเค้กเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ของตลาดเค้กที่มีมูลค่าราว 8,000 ล้านบาท

swensens ไอศกรีมเค้ก

ต้องบอกว่าตลาดไอศกรีมเค้กมีการเติบโตเรื่อยๆ แต่ไม่หวือหวา เพราะจะมีกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะที่มองการบริโภคไอศกรีมเค้กเป็นช่วงเวลาพิเศษมากกว่าการทานเค้กปกติ

สเวนเซ่นส์ได้เริ่มทำไอศกรีมเค้กด้วยขนาด 3 ปอนด์มาตั้งแต่เริ่ม แต่เดิมจะมี 2 ขนาดก็คือ 3 ปอนด์ และ 4 ปอนด์ ถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่เมื่อเทียบกับเค้กทั่วไปที่จะเริ่มต้นที่ 1-2 ปอนด์

swensens ไอศกรีมเค้ก

ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกขนาด 3 ปอนด์ ?

อนุพนธ์ นิธิยานันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย) จำกัด ในเครือเดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มเล่าว่า

“สเวนเซ่นส์ได้ทำไอศกรีมเค้กขนาด 3 ปอนด์มาตั้งแต่แรกแล้ว มองว่าเป็นสินค้าสำหรับ Sharing Moment ทานร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่ บางคนซื้อเป็นของฝาก บางคนซื้อในโอกาสพิเศษ ถ้าทำขนาดเล็กออกมามันดูไม่เหมาะ เลยทำขนาดใหญ่มันดูคุ้มค่า ทานกันได้หลายคน”

ก่อนหน้านี้เคยทำขนาด 4 ปอนด์ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มักจะซื้อในวาระสำคัญ หรือการซื้อเป็นของขวัญ แต่เมื่อเกิดวิกฤต COVID-19 มีการทำงานแบบ Work from Home มากขึ้น ทำให้ขนาด 4 ปอนด์ไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าที่ควร ตอนนี้จึงยกเลิกการขายขนาดนี้ไป

เพิ่มไซส์เล็ก เพิ่มโอกาสการกิน

ปีนี้จึงเป็นปีที่สเวนเซ่นส์จะบุกตลาดไอศกรีมเค้กมากขึ้น เพราะมองว่าทำตลาดมา 30 กว่าปี ต้องการสื่อสารให้ชัดขึ้น รวมไปถึงโจทย์ใหญ่ที่ต้องการกระตุ้นตลาด และเพิ่มโอกาสในการทานให้มากขึ้นกว่าเดิม พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องการให้ไอศกรีมเค้กเป็นเมนูสามัญ สามารถทานได้ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องรอโอกาส หรือวันพิเศษใดๆ

swensens ไอศกรีมเค้ก
ไอศกรีมเค้กขนาด 1.5 ปอนด์

สเวนเซ่นส์จึงเริ่มออกไอศกรีมเค้กขนาดเล็ก 1.5 ปอนด์ เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว เหตุผลที่ออกไซส์เล็กลงก็คือ เป็นไซส์ที่ซื้อง่ายขายคล่อง ออกมาเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ตอบรับกับเทรนด์ครอบครัวเล็กลง รวมไปถึงส่งเดลิเวอรี่ได้ง่าย ขนาด 1.5 ปอนด์จะจำหน่ายในราคา 499 บาท ส่วนขนาด 3 ปอนด์ ราคา 879 บาท

“เทรนด์การอยู่อาศัยในปัจจุบันเป็นครอบครัวเล็ก จำนวนคนต่อบ้านน้อยลง การออกไซส์ 1.5 ปอนด์ ช่วยให้ซื้อง่ายขายคล่อง ตัดสินใจได้ง่าย เดลิเวอรี่ได้ง่าย มีการดีไซน์แต่งหน้าเค้กให้มีสีสันเพื่อดึงดูดกลุ่มเด็กๆ แต่ก่อนเราทำไอศกรีมเค้กเพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิด แต่ตอนนี้อยากให้ทานได้ทุกโอกาส ไม่จำเป็นต้องวันเกิดเพียงอย่างเดียว ซื้อด้วยความคิดถึงก็ได้ อยากให้เป็นพาร์ตหนึ่งของชีวิต”

swensens ไอศกรีมเค้ก

นอกจากการเพิ่มไซส์เล็ก 1.5 ปอนด์แล้ว ในปีนี้สเวนเซ่นส์ได้ปรับโฉมไอศกรีมเค้กขนาด 3 ปอนด์เพิ่มเติม 5 เมนู ตกแต่งเค้กด้วยท็อปปิ้งพรีเมียม ได้แก่ ทริปเปิ้ล เฟล์เวอร์, อัลติเมท ช็อกโกแลต, ช็อกโกแลต คุกกี้ แอนด์ ครีม, มอคค่า พาราดิโซ่ และสตรอว์เบอร์รี ดีไลท์ 

ทำให้ตอนนี้สัดส่วนรายได้ในการขายไอศกรีมเค้กอยู่ที่ขนาด 3 ปอนด์ 60% และขนาด 1.5 ปอนด์ 40%

รู้สึกพิเศษกว่าเค้กทั่วไป

ถ้าดูจากอินไซต์ของการบริโภคไอศกรีมเค้กแล้วนั้น อนุพนธ์บอกว่า กลุ่มลูกค้าจะแตกต่างจากกลุ่มเค้กทั่วไป ต่างกันที่โมเมนต์ หรือช่วงเวลาต่างๆ และคนกลุ่มนี้จะคิดเยอะ ต้องมองว่าเป็นโอกาสสำคัญจริงๆ ถึงจะเลือกซื้อไอศกรีมเค้ก

“กลุ่มลูกค้าของเค้กทั่วไป กับไอศกรีมเค้กจะต่างที่โมเมนต์ คนทานไอศกรีมเค้กจะคิดเยอะ ด้วยความเป็นไอศกรีมที่ละลายได้ ทำให้ต้องคิดมากกว่า ต้องพิเศษกว่าปกติ อีกทั้งราคายังสูงกว่าเค้กทั่วไปด้วย ถ้าต้องการมอบเป็นของขวัญ หรือเนื่องในเทศกาลต่างๆ วันเกิด ก็จะเลือกไอศกรีมเค้ก แต่ถ้าต้องการปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนคงจะเลือกเค้กทั่วไปมากกว่า เมื่อการตัดสินใจซับซ้อนกว่า ทำให้โมเมนต์พิเศษมากขึ้น” 

swensens ไอศกรีมเค้ก

ลูกค้าของสเวนเซ่นส์จะซื้อตามโอกาส ช่วงเวลาที่ขายดีจะเป็นวันเทศกาลต่างๆ ได้แก่ วันเกิด, วันวาเลนไทน์, วันแม่, วันคริสต์มาส และวันปีใหม่ แต่ถ้าวันที่ขายดีสุดๆ ก็คงเป็นวันแม่กับวันปีใหม่

ส่วนโลเคชั่นที่ขายไอศกรีมเค้กดีที่สุด ได้แก่ ปิ่นเกล้า, ประชาอุทิศ, ศรีนครินทร์ และแฟชั่น ไอซ์แลนด์ ส่วนใหญ่จะเป็นโซนที่มีชุมชนหนาแน่น มีหมู่บ้านครัวเรือนอยู่เยอะ เพราะลูกค้าหลักเป็นกลุ่มครอบครัว ส่วนสาขาในเมืองจะขายไอศกรีมควอทได้ดีกว่า

ปัจจุบันไอศกรีมเค้กมีสัดส่วนรายได้ 20% จากยอดขายทั้งหมด โดยรสชาติ “ทริปเปิ้ล เฟล์เวอร์” ขายดีที่สุด

สำหรับเป้าหมายในการเติบโตของกลุ่มไอศกรีมเค้กในปีนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 30% จากปีที่แล้วที่เติบโต 10%