ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2021 สหรัฐฯ ประกาศเปิดประเทศ อ้าแขนรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วทั้งหมด ข่าวดีนี้ทำให้ยอดจองตั๋วสายการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศฟื้น 70% เทียบกับช่วงก่อนเกิด COVID-19 “นิวยอร์ก” ที่สุดของปลายทางยอดฮิต ขณะที่ “สวนสนุกดิสนีย์” ในออร์แลนโด และเมืองคาสิโน “ลาสเวกัส” คือแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สิ้นสุดการปิดพรมแดนกว่า 20 เดือนของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2021 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจ COVID-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนมาถึง สามารถเข้าสู่สหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องกักตัว
ข้อมูลจาก Travelport บริษัทเทคโนโลยีด้านการจองการท่องเที่ยว ระบุว่า เที่ยวบินทั้งภายในประเทศสหรัฐฯ และระหว่างประเทศ ถูกจองขึ้นไปถึงระดับ 70% ของที่เคยทำได้ในช่วงก่อนเกิด COVID-19 เป็นสัญญาณแห่งความหวังว่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยวสหรัฐฯ จะฟื้นตัวเร็ว
โดยสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ ให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า มูลค่าตลาดท่องเที่ยวสหรัฐฯ มีเม็ดเงินถึง 2.33 แสนล้านเหรียญต่อปี และต้องสูญเสียรายได้ถึง 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อสัปดาห์ ในช่วงที่ภาครัฐปิดประเทศไม่ให้ชาวแคนาดา ชาวยุโรป และชาวอังกฤษข้ามพรมแดน
การเปิดประเทศรอบล่าสุดนั้น มีจุดสำคัญคือการเปิดให้ชาวต่างชาติ 33 ประเทศเข้าได้โดยไม่ต้องกักตัว ได้แก่ 26 ประเทศเชงเก้น (ยุโรป), สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, จีน, อินเดีย, แอฟริกาใต้, อิหร่าน และบราซิล ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐฯ อนุญาตให้เข้า 150 ประเทศแต่ไม่รวมประเทศข้างต้น ทั้งที่กลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปและอังกฤษนั้นสำคัญมากกับเศรษฐกิจท่องเที่ยว และมีอัตราการฉีดวัคซีน-ควบคุมโรคระบาดที่ดีกว่าพื้นที่อื่นๆ ของโลก
สำหรับ 5 จุดหมายปลายทางในสหรัฐฯ ที่มีการจองมากที่สุดในเดือนพฤศจิกายนนี้ (นับทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ) ตามข้อมูลของ Travelport ได้แก่
1)นิวยอร์ก
2)ไมอามี
3)ออร์แลนโด
4)ลอสแอนเจลิส
5)ซานฟรานซิสโก
อย่างไรก็ตาม ถ้าวัดจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติมากที่สุด และมาจากต่างประเทศมากที่สุดคือ “ลาสเวกัส” ส่วนชาติที่นิยมบินไปสหรัฐฯ มากที่สุดคือ “ชาวอังกฤษ”
- โจทย์ใหญ่ธุรกิจท่องเที่ยว เปิดประเทศเเต่ขาดลูกค้าชาวจีน เเถมใกล้หมดยุค ‘ทัวร์จีน’ กรุ๊ปใหญ่
- ญี่ปุ่น เตรียมเปิดประเทศรับต่างชาติ กลุ่มนักเรียน-ฝึกอบรม-ทำธุรกิจ เเต่นักท่องเที่ยวต้องรอก่อน
กลุ่ม Top 5 จุดหมายปลายทางมีแรงดึงดูดของตนเอง เช่น “นิวยอร์ก” เป็นเมืองยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมไปฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ “ไมอามี” เป็นเมืองพักผ่อนชายทะเล ขณะที่ “ออร์แลนโด” เป็นที่ตั้งของ “ดิสนีย์ เวิลด์” (46% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จองตอนนี้คือชาวอังกฤษ!) “ลอสแอนเจลิส” กลิ่นอายแห่งฮอลลีวูดทำให้แฟนๆ ภาพยนตร์นิยมเดินทางมา “ซานฟรานซิสโก” เมืองแห่งเทคโนโลยี และมีเทศกาลที่จัดกลางแจ้งมากมายให้เข้าร่วม