โจทย์ใหญ่ธุรกิจท่องเที่ยว เปิดประเทศเเต่ขาดลูกค้าชาวจีน เเถมใกล้หมดยุค ‘ทัวร์จีน’ กรุ๊ปใหญ่ 

หลายประเทศในเอเชีย รวมถึงไทย เริ่มทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลก เป็นความหวังใหม่ของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักมานานนับปี เเต่ยังคงมีอุปสรรคใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ การหายไปของนักท่องเที่ยวจีน

ก่อนเกิดวิกฤตโควิด ประเทศจีนเป็นตลาดการท่องเที่ยวขาออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเต่ปัจจุบันรัฐบาลดำเนินมาตรการเข้มงวดตามเเนวทางควบคุมการติดเชื้อให้เป็นศูนย์ โดยยังคงจำกัดเที่ยวบินระหว่างประเทศไว้ที่ 2% ของจำนวนเที่ยวบินโดยรวมก่อนเกิดโรคระบาด และยังไม่ได้ผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี

นั่นทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก ต้องหายไปถึง 255,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.5 ล้านล้านบาท) ต่อปี เหล่าผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวต้องปรับตัวครั้งใหญ่ พยายามเพื่อหารายได้อื่นมาทดเเทน

ผู้ประกอบการอย่างลากูน่า ภูเก็ตในไทย ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า รีสอร์ททั้ง 5 แห่งของบริษัท ต้องเปลี่ยนไปเน้นกลุ่มลูกค้าที่มาจากยุโรป สหรัฐอเมริกาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อชดเชยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เคยมีสัดส่วนกว่า 25%-30% ก่อนเกิดวิกฤตโรคระบาด

เราก็ยังไม่ได้ทำการตลาดหรือทุ่มโปรโมตในประเทศจีนมากนัก เพราะรู้สึกว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีนยังไม่มาในตอนนี้” Ravi Chandran เอ็มดีของลากูน่า ภูเก็ต ประเทศไทย กล่าว

เศรษฐกิจไทยพึ่งพาธุรกิจภาคท่องเที่ยวอย่างมาก ทำให้ต้องรับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ครั้งนี้อย่างมหาศาล โดยคิดเป็นเงินกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.7 ล้านล้านบาทต่อปี

โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนนั้นถือเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายในไทย ‘สูงกว่าค่าเฉลี่ย’ ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

ในปีนี้ ประเทศไทยหวังว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ราว 180,000 คน คิดเป็นส่วนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยมาไทยถึง 40 ล้านคนในปี 2019

ผู้เชี่ยวชาญหลายคน วิเคราะห์ว่า รัฐบาลจีนน่าจะคงมาตรการที่เข้มงวดต่าง ๆ ไว้ เช่น การกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศนานถึง 3 สัปดาห์ ไปจนถึงไตรมาส 2 ของปีหน้าเป็นอย่างน้อย และอาจจะค่อย ๆ เปิดพรมแดนไปทีละประเทศ

Photo : Shutterstock

หาตลาดใหม่ ระหว่างรอนักท่องเที่ยวจีน 

Liz Ortiguera ผู้บริหารระดับสูงของ Pacific Asia Travel Association (PATA) กล่าวว่าประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ต้องหาตลาดใหม่ๆ เรียนรู้วิธีทำการตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้คนที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน

เธอยกตัวอย่างถึงมัลดีฟส์’ ที่ประสบความสำเร็จในการฟื้นธุรกิจการท่องเที่ยวในช่วงโควิดระบาด โดยใช้วิธีโปรโมตตัวเองอย่างมาก ตามงานแสดงสินค้าและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวรัสเซียและอินเดีย ให้มาพักผ่อนในรีสอร์ทหรูได้มากขึ้น ทดเเทนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเคยเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่มาเยือนมัลดีฟส์ก่อนเกิดโรคระบาด จะยังไม่กลับมาในเร็ววันนี้

ForwardKeys บริษัทสำรวจข้อมูลการเดินทาง คาดว่า จะต้องรอจนถึงปี 2025 กว่าที่ตลาดท่องเที่ยวขาออกของจีนจะฟื้นตัวเท่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด ทำให้สายการบินต้องประเมินเส้นทางใหม่อีกครั้ง

โดยข้อมูลระบุว่า 38% ของนักท่องเที่ยวชาวจีนใช้บริการสายการบินต่างประเทศในปี 2019 แม้ว่าสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซียจะค่อยๆ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างประเทศเเล้ว แต่การบินไทยและสายการบินการูดาของอินโดนีเซีย ก็มีการปรับโครงสร้างบริษัทให้เล็กลงเพื่อความอยู่รอดในช่วงโควิด ท่ามกลางปัญหาขาดนักท่องเที่ยวจีน

ใกล้หมดยุค ‘ทัวร์จีน’ กรุ๊ปใหญ่ 

ถึงอนาคตทางการจีนจะผ่อนคลายข้อกำหนดการออกนอกประเทศเเล้ว เเต่ผลสำรวจก็สะท้อนให้เห็นอีกมุมว่า ชาวจีนหลายคนยังลังเลที่จะเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากความกลัวโควิด-19 เเละสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ อย่างเกาะไหหลำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของฮ่องกงและเกาหลีใต้ในอนาคต

หญิงชาวจีน วัย 29 ปีผู้ซึ่งเคยเดินทางไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหราชอาณาจักรก่อนการระบาดใหญ่ให้สัมภาษณ์ว่า เธอไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นอยากเดินทางระหว่างประเทศในตอนนี้มากนัก เพราะประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม ยังมีอัตราการฉีดวัคซีนได้น้อย

เทรนด์การเที่ยวชมธรรมชาติยังคงอยู่ในกระแสความนิยมของนักท่องเที่ยวจีน กิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เริ่มได้รับความนิยม เพราะผู้คนอยากหลีกเลี่ยงที่เเออัด

ตลาดจะเปลี่ยนไป คนจีนที่เดินทางในปี 2022 จะแตกต่างจากคนจีนที่เดินทางในปี 2019” ซีอีโอของสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวขาออกของจีนกล่าว

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จะต้องปรับตัวตามความเปลี่ยนเเปลงใหม่ โดยความนิยมการเดินทางจะเป็นไปในรูปแบบกลุ่มเล็กๆ สำหรับคนที่สนิทกัน เเทนที่จะเป็นการจัดกรุ๊ปทัวร์กลุ่มใหญ่ ๆ เหมือนในอดีต

 

ที่มา : Reuters