พลิกวิกฤตโลกเป็นโอกาสของ “ไห่หนาน” ยอดขาย “ดิวตี้ฟรี” โต 236% ในรอบปี

(Photo : Shutterstock)
แผนปั้น “ไห่หนาน” เป็นเมืองท่องเที่ยวและ “ดิวตี้ฟรี” ระดับโลกเริ่มฉายแสง จากนโยบายใหม่ดันเพดานยอดซื้อสินค้าปลอดภาษีเป็น 100,000 หยวนต่อคน ผนวกกับโรคระบาดที่ทำให้คนจีนเดินทางต่างประเทศไม่ได้ ทำให้ยอดขายดิวตี้ฟรีเกาะไห่หนานพุ่ง 236% ในรอบปี และส่งบริษัท China Duty-Free Group ขึ้นเป็นบริษัทดิวตี้ฟรีเบอร์ 4 ของโลก

สำนักข่าว China Daily รายงานมูลค่ายอดขายดิวตี้ฟรีบนเกาะไห่หนานรอบวันที่ 1 มิถุนายน 2020 ถึง 31 พฤษภาคม 2021 แตะ 4.55 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 2.22 แสนล้านบาท) เติบโตขึ้นถึง 236% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ จำนวนนักช้อปยังเพิ่มขึ้น 144% เป็น 8.77 ล้านคน และซื้อสินค้าคิดเป็นจำนวนชิ้น 47 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 152% สะท้อนให้เห็นการเติบโตที่พุ่งสูงในทุกแง่มุม

เกาะไห่หนาน (หรือเกาะไหหลำที่คนไทยรู้จัก) ถูกเรียกว่าเป็น “ฮาวายของเมืองจีน” โดยตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้สุดของประเทศ มีพื้นที่ทั้งหมด 35,000 ตร.กม. เล็กกว่าเกาะไต้หวันเพียงเล็กน้อย เกาะไห่หนานนี้ได้รับการกำหนดนโยบายจากรัฐบาลจีนให้เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลและเมืองดิวตี้ฟรี โดยที่ผ่านมาเป็นที่นิยมในหมู่คนจีนแผ่นดินใหญ่ ปัจจุบันกำหนดพื้นที่ดิวตี้ฟรีไว้ 210,000 ตร.ม.

ซานย่า เมืองบนเกาะไห่หนาน แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลและดิวตี้ฟรีของจีน

ล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายน 2020 ไห่หนานประกาศเป้าขึ้นเป็น “เมืองท่าปลอดภาษี” ระดับโลก โดยจะกำหนดนโยบายต่างๆ ให้บริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในมณฑลนี้ง่ายขึ้น

ไห่หนานยังเปิดนโยบายเร่งยอดขายเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 โดยปลดล็อกการจำกัดค่าใช้จ่ายสินค้าปลอดภาษีต่อคนจากเดิม 30,000 หยวนต่อคน(ประมาณ 146,000 บาท) เป็น 100,000 หยวนต่อคน (ประมาณ 487,000 บาท) และยังขยายประเภทสินค้าปลอดภาษีจาก 38 ประเภทเป็น 45 ประเภท รวมถึงยกเลิกเพดานภาษีที่ได้รับการยกเว้นให้ไม่เกิน 8,000 หยวนต่อชิ้น (ประมาณ 39,000 บาท) เป็นไม่มีเพดานใดๆ

ด้วยยอดใช้จ่ายที่ดันเพดานให้สูงขึ้น และเป็นช่วงที่คนจีนไม่สามารถออกนอกประเทศไปช้อปสินค้าโดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมได้ ทำให้การเดินทางมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งที่ไห่หนานสูงขึ้นทันที โดยมีแบรนด์ยอดนิยมที่คนจีนต้องการ เช่น Louis Vuitton, Hermes, Estee Lauder, Cartier, Bulgari, Tiffany & Co. เป็นต้น

สำนักข่าว Global Times China สัมภาษณ์ “หลี่หู” นักช้อปวัย 29 ปีผู้เดินทางมาเที่ยวและช้อปปิ้งในไห่หนาน สะท้อนมุมมองของคนจีนว่า แม้เมืองใหญ่อย่างปักกิ่งที่เธออาศัยอยู่จะมีสินค้าหลากหลายรุ่นกว่าแต่ราคาของในไห่หนานสมเหตุสมผลมากกว่า และยิ่งขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางมาช้อปที่ไห่หนาน

Haitang Bay Duty Free Shopping Complex แหล่งช้อปปิ้งดิวตี้ฟรี พัฒนาโดยบริษัท China Duty-Free Group (Photo : CDF)

ชาวจีนนั้นเป็นกำลังซื้อสำคัญในตลาดสินค้าแบรนด์เนมอยู่แล้ว ทำให้การเปิดดิวตี้ฟรีของตัวเองเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการดึงเม็ดเงินให้หมุนเวียนในประเทศ และเป็นฐานต่อยอดไปสู่การเป็นสถานที่ช้อปปิ้งดิวตี้ฟรีระดับโลก

ไห่หนานจะต้องแข่งขันกับเมืองดิวตี้ฟรีดั้งเดิม เช่น สิงคโปร์ ดูไบ ส่วนบริษัทดิวตี้ฟรีหลักของจีนคือ China Duty-Free Group (CDF) จะต้องแข่งขันกับยักษ์ใหญ่คือ Dufry เบอร์ 1 โลกจากสวิตเซอร์แลนด์ และ Lotte Duty Free เบอร์ 2 จากเกาหลีใต้ รวมถึง The Shilla Duty Free เบอร์ 3 จากเกาหลีใต้อีกเช่นกัน โดยขณะนี้ CDF ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกแล้ว (ข้อมูลจาก The Moodie Davitt Report)

นอกจากเป็นผู้เล่นหลักครองตลาดในสนามบินทั่วประเทศจีน CDF ยังสยายปีกออกนอกประเทศแล้ว โดยได้สิทธิดิวตี้ฟรีในสีหนุวิลล์และพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รวมถึงเป็นพันธมิตรเปิดร้านบนเครือข่ายเรือสำราญ Star Cruise

Source: China Daily, Global Times China