‘อาลีบาบา’ ทุบสถิติ 11.11 กวาดยอดขาย 2.8 ล้านล้านบาท เติบโต 8%

Photo credit: Alibaba Group
หลายคนน่าจะเสียทรัพย์ให้กับวัน 11.11 ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอีคอมเมิร์ซชั้นนำในไทยต่างก็ออกมาพูดถึงความสำเร็จกับแคมเปญดังกล่าว อย่าง Lazada ในช่วง 2 ชั่วโมงแรกยอดสั่งซื้อโต 200% จำนวนผู้ใช้โต 120% ส่วน Shopee  5 นาทีแรกของวัน ช้อปปี้โกยยอดขายได้ 11 ล้านชิ้น และในช่วง 2 ชั่วโมงแรกมียอดผู้เข้าแพลตฟอร์มพุ่ง 5.5 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับวันปกติ ดังนั้น ไปดูในฝั่งของต้นกำเนิดอย่าง ‘อาลีบาบา’ กันบ้าง

ในส่วนของ ‘อาลีบาบา’ ต้นกำเนิดของ ‘วันคนโสด’ หรือ ‘11.11’ ที่ปังแซง Black Friday ของฝั่งยุโรปกลายเป็นมหกรรมการช้อปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถิติของแคมเปญเช่นกัน แม้ว่าตอนนี้บริษัทจะถูกรัฐบาลจีนจับตาอยู่ก็ตาม

โดยยอดขายใน ‘Tmall’ พุ่งขึ้นแตะระดับ 5.403 แสนล้านหยวน (8.454 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 2.8 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเติบโตจากปีที่ผ่านมา 8% ส่วน ‘JD.com’ เบอร์ 2 อีคอมเมิร์ซจีนมียอดที่ 3.114 แสนล้านหยวน (4.86 หมื่นล้านดอลลาร์) เติบโตขึ้น 28%

ภาพรวมของยอดขายที่ถล่มทลายนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความกระหายของผู้บริโภคชาวจีนในการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวจีน รวมถึงผลกระทบของการปราบปรามบริษัทเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร ยกเว้นว่าการโหมกระแสแคมเปญในปีนี้จะดูเงียบ ๆ

ในส่วนของสินค้าขายดี ทางฝั่งของเจดีเปิดเผยว่า ‘สินค้าฟุ่มเฟือย’ และ ‘สัตว์เลี้ยง’ มียอดขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ทั้งอาลีบาบาและเจดีเห็นการเติบโตในเมืองเล็ก ๆ ของจีน ซึ่งเป็นจุดสนใจหลักสำหรับบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ต้องการขยายฐานผู้ใช้ นอกจากนี้ ผู้ใช้จากตลาดระดับล่างคิดเป็น 77% ของผู้ซื้อทั้งหมด โดยเน้นซื้อเครื่องใช้ในบ้าน ยา และของตกแต่งบ้าน

ทั้งนี้ อาลีบาบาและเจดี ได้กล่าวถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระหว่างงาน โดยเจดีระบุว่าได้ลดการปล่อยคาร์บอนลง 26,000 ตันในช่วงแคมเปญนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเน้นย้ำถึงการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม

หลังจากจบวัน 11.11 หุ้นของเจดีเพิ่มขึ้นประมาณ 4.6% ในการซื้อขายช่วงบ่ายในฮ่องกงในวันศุกร์ ขณะที่อาลีบาบาลดลงประมาณ -1.8%

Source