เจ้าหน้าที่รัฐกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ประกาศปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งยาวไม่มีกำหนด หลังระดับฝุ่น PM2.5 ร้ายแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงออกกฎงดการก่อสร้าง ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินบางส่วน เพื่อรับมือวิกฤตฝุ่นประจำปี
กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียต้องเผชิญฝุ่นพิษหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันเทศกาลดิวาลีเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2021 โดยอ้างอิงจาก IQAir วันที่ 18 พ.ย. 2021 นิวเดลีถือเป็นเมืองอันดับ 3 ของโลกที่มีค่าฝุ่น AQI สูงที่สุด
และย้อนกลับไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นิวเดลีมีค่าฝุ่นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยอมรับว่าปลอดภัยไปมหาศาล โดยค่าฝุ่นพุ่งขึ้นไปถึง 400 อยู่ในระดับ “รุนแรง” ต่อสุขภาพ จากปกติอากาศที่ถือว่ามีค่า AQI ในระดับดีต้องอยู่ที่ไม่เกิน 50 และระดับน่าพึงพอใจต้องอยู่ระหว่าง 51-100
ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐจึงสั่งหยุดการเรียนการสอนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยยาวไม่มีกำหนดเพื่อปกป้องสุขภาพเยาวชน รวมถึงให้หยุดการก่อสร้างจนถึงวันที่ 21 พ.ย.นี้ ยกเว้นการก่อสร้างที่เกี่ยวกับการขนส่งและการป้องกันประเทศ
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินเพียง 5 จาก 11 แห่งเท่านั้นที่ยังได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อ
ขณะนี้รัฐบาลอินเดียกำลังถกเถียงกันอยู่ว่า อาจจะมีการสั่ง “ล็อกดาวน์” เพื่อให้คุณภาพอากาศดีขึ้น หากเกิดขึ้นจริงจะถือเป็นการล็อกดาวน์รอบใหม่ของอินเดียที่ไม่เกี่ยวข้องกับ COVID-19
สาเหตุที่นิวเดลีเต็มไปด้วยหมอกฝุ่นและเป็นเช่นนี้ติดต่อกันมาหลายปีเกิดจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยมลพิษของอุตสาหกรรม ยานพาหนะ ไปจนถึงการเผาไร่นาในหน้าหนาวของเกษตรกร รวมถึงการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองดิวาลี (เทศกาลแห่งแสงสว่าง) ทั้งหมดเมื่อเกิดขึ้นพร้อมกันในช่วงฤดูที่ลมพัดอ่อน ทำให้มลพิษทั้งหมดลอยต่ำลงในชั้นบรรยากาศ
ฝุ่น PM2.5 สามารถทำอันตรายต่อปอดได้ในระยะยาว ส่วนผลที่เกิดขึ้นทันที ได้แก่ หายใจติดขัด น้ำมูกไหล คันตา ซึ่งทำให้โรงพยาบาลของนิวเดลีเต็มไปด้วยผู้ป่วยจากฝุ่น
