มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล มีเวลา 1 ปี หาช่องแทรกตลาด

ค่ายมิตซูบิชิ นับเป็นรายที่ 3 ที่ประกาศเปิดตัวรถอีโค่คาร์อย่างจริงจังล่วงหน้า 1 ปี เช่นเดียวกับนิสสัน มาร์ช และฮอนด้า บริโอ้ เพื่อบอกให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า รถอีโค่คาร์ของมิตซูบิชิกำลังเตรียมการและพร้อมที่จะออกมาขายแล้ว แต่ตอนนี้ให้ดูแค่รถต้นแบบไปก่อน ว่ารูปลักษณ์จะออกมาอย่างไร

ศุภศักดิ์ ดุละลัมพะ ผู้อำนวยการ ฝ่ายโฆษณษและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด สำนักการตลาด บริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า รถขนาดเล็กเป็นกระแสของรถทั่วโลกที่เริ่มปรับเปลี่ยนมาทางนี้

มิตซูบิชิ มอเตอร์ ได้นำรถต้นแบบ มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล มาแสดงให้ชมในงานบางกอกมอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 โดยเป็นรถยนต์ในกลุ่มอีโค่คาร์ พัฒนามาจากแนวคิดหลัก คือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความคุ้มค่า และใช้งานได้อย่างสะดวก

มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล ออกแบบให้มีรูปร่างเล็ก ความยาวตลอดคัน 3.74 เมตร กว้าง 1.68 เมตร และสูงเพียง 1.49 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ถึง 5 คน ในส่วนของเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ MIVEC 3 สูบ ขนาด 1.0 และ 1.2 ลิตร

“เราต้องปรับสเป็กให้เข้ากับอีโค่คาร์เมืองไทย ทั้งขนาด การบริโภคน้ำมัน และขนาดเครื่องยนต์” ศุภศักดิ์ อธิบายถึงรถต้นแบบอีโค่คาร์ที่มาแสดงในงาน เพราะเมื่อถึงการผลิตเป็นรถออกมาจำหน่ายจะต้องมีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่างๆ ให้เหมาะสม

เมื่อเข้ามาเป็นรายที่สาม งานหนักจึงตกอยู่กับมิตซูบิชิไม่น้อยทีเดียว แต่เขาเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย เมื่อเข้ามาเป็นรายที่สาม ก็ต้องชูจุดเด่นของมิตซูบิชิออกมา ขณะนี้ทีมงานเริ่มทำงานกันแล้ว

การทำงานในความหมายของศุภศักดิ์ คือ การศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า การกำหนดกลุ่มเป้าหมายของรถอีโค่คาร์ ที่ขณะนี้ตลาดมองว่าเป็นรถของเด็กอายุตั้งแต่ 16 ขึ้นไป และซื้อรถเป็นคันแรก แต่ทางมิตซูบิชิมองว่าอาจจะไม่ใช่ อาจจะเป็นคุณแม่ คุณพ่อ ที่ยังขับรถไหว หรือเป็นรถคันที่ 4 -5 ของที่บ้าน ซึ่งก็คือมีช่องว่างให้มิตซูบิชิเข้าไปเจาะได้หลายกลุ่ม แต่ต้องศึกษาให้ชัดเจนก่อน

“ทุกวันนี้เรากำลังมองอยู่ มอนิเตอร์และวิเคราะห์ ซึ่งสามารถเป็นไปได้ทุกอย่าง น่าแปลกดี เราจะไปที่เด็กมหาวิทยาลัย แต่เดี๋ยวผู้ใหญ่ไม่ซื้อ หากไปที่กลุ่มผู้ใหญ่ เดี๋ยวเด็กไม่ซื้อ ตรงนี้มีหลายอย่างที่ต้องดู มีเวลา 1 ปี ต้องคุยกันอีกมาก”

ในแง่ความแข็งแกร่งของแบรนด์ เขาบอกว่า มิตซูบิชิขายรถกระบะมาก่อน และขายรถรุ่นสเปซวากอน ปาเจโร่สปอต ทำให้มีความได้เปรียบด้านการเกาะถนน และความนุ่มนวลมากกว่ายี่ห้ออื่น

มิตซูบิชิแม้จะขายรถกระบะมาก่อน แต่ก็มีฐานลูกค้ารถเก๋ง ทำให้มั่นใจว่า ลูกค้าที่ใช้จ่ายเงินเป็นล้านบาทเพื่อซื้อรถรุ่นอื่นของมิตซูบิชิ ถ้าเปิดตลาดรถที่ถูกลงมาก็เป็นเรื่องที่ทำได้ และท้าทาย

เขายอมรับว่า ความภักดีต่อแบรนด์มีผลต่อการซื้อรถ เพราะว่าแฟนฮอนด้า แข็งแรงมาก เพราะฮอนด้าเปิดตัวจากรถเบนซ์ของญี่ปุ่น ส่วนของมิตซูบิชิเริ่มมาจากรถแข่ง มอเตอร์สปอร์ต ทำให้ต้องปรับภาพลักษณ์ใหม่ว่าตอนนี้มิตซูบิชิกำลังสร้างรถเพื่อสำหรับทุกคน ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ

การเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องของรถแข่ง หรือรถที่มีความเร็วสูง ก็เป็นข้อดีของมิตซูบิชิที่อาจจะนำมใช้ในการสร้างความน่าเชื่อถือว่า รถอีโค่คาร์ของมิตซูบิชิจะได้รับการพัฒนาให้มีระบบช่วงล่างที่แข็งแกร่ง เกาะถนน

“กลุ่มเด็ก สนุกสนาน ร่าเริง เรียนมหาวิทยาลัย เป็นกลุ่มที่กว้างกว่ามอเตอร์สปอตเยอะ และมอเตอร์สปอตเป็นเรื่องเชิงลึก เช่นช่วงหลัง อัตราเร่ง เราต้องปรับให้กลุ่มเด็กเข้าใจว่าการที่เราไปทำรถแข่งแล้วได้อะไร ช่วงล่างของรถจะแน่นเลยนะ ระบบเบรกจะดีเลย น่าจะมีการเปลี่ยนการทำตลาดใหม่เลย แต่ก็มีหลายแนวทาง เราอาจจะดึงเอาการันตีช่วงล่างด้วยเราพัฒนามาจากสนมแข่ง ระบบเบรก โครงสร้างปลอดภัย”

เมื่อสินค้าเช่นรถอีโค่คาร์ถูกกำหนดให้คุณสมบัติเดียวกันจากภาครัฐ การแข่งขันของแต่ละค่ายรถยนต์ก็ต้องหากลยุทธ์ในการขายใหม่ๆ ออกมา ซึ่งทางมิตซูบิชิค่อนข้างจะชัดเจนว่าจะใช่เรื่องระยะเวลาในการส่มอบรถไม่เกิน 1 เดือนมาใช้ เพราะอีก 2 รายมีช่วงเวลาในการรอรถนานกว่านิสสัน มาร์ช ประมาณ 3-4 เดือน ส่วนฮอนด้าเริ่มที่ 2 เดือน

นอกจากนี้ มิตซูบิชิก็เริ่มใช้เวลาที่เหลืออยู่ 1 ปีปรับกลยุทธ์หลายๆ ประการเพื่อให้รองรับกับอีโค่คาร์ที่จะเปิดในปลายปีนี้ เพราะรถใหม่อย่างอีโค่คาร์ต้องสู้กันด้วยการตลาดที่รุนแรงขึ้น

“มิตซูบิชิใช้พรีเซ็นเตอร์ ตูน บอดี้สแลม มองเผินๆ เหมือนกับว่าเราใช้ตูนกับรถกระบะ ใช้อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮมกับรถเก๋ง แต่ถ้ามองลึกๆ แล้วเราพยายายามยื่นมือไปหากลุ่มที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน แฟนบอดี้สแลมไม่เคยรู้จักมิตซูบิชิมาก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้จัก โลโก้ลอยออกมาแล้ว แฟนอนันดา สาวๆ ไม่เคยมองมิตซูบิชิก็เริ่มหันมามองแล้ว นี่แหละคือสิ่งที่เราจะปูทาง เริ่มต้นของการเปิดตัวรถอีโค่คาร์” ศุภศักดิ์เฉลยสิ่งที่มิตซูบิชิกำลังคิดและวางแผนอยู่ในใจ

ส่วนหลังจากนี้จะสื่อสารอย่างไรกับกลุ่มลูกค้าเขายังบอกไม่ได้ ซึ่งไม่มีอะไรเป็นความลับ แต่ทุกคนยังไม่ทราบรายละเอียดว่ารถจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องรอเห็นรถ แล้วจึงค่อยมาคิดว่าจะสื่อสารอย่างไร