ข้ามไทยอีกแล้ว! ‘Intel’ เตรียมลงทุน 7 พันล้านเหรียญ เปิดโรงงานผลิต ‘ชิป’ ในมาเลเซีย

‘อินเทล’ (Intel) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เปิดเผยว่า จะลงทุนเป็นเงินมากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิปแห่งใหม่ในมาเลเซีย

แพ็ต เกลซิงเกอร์ หัวหน้าผู้บริหารระดับสูงของอินเทล กล่าวว่า สาเหตุที่อินเทลขยายการผลิต เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก โดยโรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแห่งใหม่ในมาเลเซียคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2024 ด้านรัฐบาลมาเลเซีย กล่าวว่า การลงทุนมูลค่า 30 พันล้านริงกิต (7.10 พันล้านดอลลาร์) ของอินเทล จะสร้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่งและงานก่อสร้างมากกว่า 5,000 ตำแหน่งในประเทศ

การดำเนินการนี้เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีเนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการขาดแคลนชิปและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากการฟื้นตัวของโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก” โมฮาเหม็ด อัซมิน อาลี รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของมาเลเซียกล่าว

ที่ผ่านมา อินเทลได้เปิดโรงงานผลิตแห่งแรกนอกสหรัฐอเมริกาที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซียเมื่อปี 1972 โดยโรงงานมีขนาด 5 เอเคอร์ และในปี 1975 มีพนักงานประมาณ 1,000 คน และได้กลายเป็นส่วนสำคัญของซัพพลายการผลิตของบริษัท ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการประกอบชิปของมาเลเซีย คิดเป็นกว่า 1 ใน 10 ของการค้าโลกซึ่งมีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับปัญหาการขาดแคลนทั่วโลกของชิปเซมิคอนดักเตอร์ส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น โดยมีการแพร่ระบาดเป็นเชื้อเพลิง โดยที่ผ่านมาจะเห็นหลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากปัญหา ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้องลดจำนวนการผลิต ไปจนถึงความล่าช้าในการส่งมอบมาร์ทโฟน อาทิ iPhone ของ Apple ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนชิปคาดว่าจะลากยาวไปอีกน้อย 2 ปี

โดยรวมแล้วอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในปีนี้จะเติบโตมากกว่าในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา แต่ช่องว่างยังคงมีขนาดใหญ่แต่ด้วยสถานการณ์และข้อจำกัดต่าง ๆ คาดว่าปัญหาจะยาวไปถึงปี 2023” แพ็ต เกลซิงเกอร์ กล่าว

ไม่ใช่แค่มาเลเซีย แต่อินเทลหวังที่จะประกาศเปิดโรงงานแห่งใหม่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปภายในต้นปีหน้า

Source