-
ไฮเออร์ (Haier) ประกาศยอดขายปี 2564 โต 29% รวม 7,921 ล้านบาท แต่ตกเป้าเล็กน้อยจากการล็อกดาวน์ปิดห้างฯ ช่วงกลางปี
-
ยอดขายกลุ่ม “แอร์” ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของตลาดหากวัดจากจำนวนเครื่อง ขณะที่ “ตู้เย็น” ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 จากเดิมเคยอยู่ในอันดับ 7
-
เตรียมเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ “Yudee” (อยู่ดี) ให้ลูกค้าผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ได้โดยไม่ต้องผ่านบัตรเครดิต อัตราดอกเบี้ย 0% สูงสุด 24 เดือน จ่ายได้ผ่านโมบายแบงกิ้ง
-
ปี 2565 ตั้งเป้าเติบโตอีก 33% ยังเน้นสินค้าเรือธง คือ แอร์, ตู้เย็น, ตู้แช่ และบุกหนักกลุ่ม “ทีวี” เตรียมออกใหม่ 17 รุ่น
“จาง เจิ้งฮุ้ย” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับ “ธเนศร์ บินอาซัน” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศรายได้ปี 2564 ของ “ไฮเออร์” ประเทศไทย ทำได้รวม 7,921 ล้านบาท เติบโต 29% เทียบกับปีก่อน สวนทางกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยรวมที่เติบโตเพียง 0.3% เทียบกับปีก่อน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม รายได้ปีนี้ของไฮเออร์ถือว่าตกเป้าประมาณ 6% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากการปิดล็อกดาวน์ช่วงกลางปี ทำให้แบรนด์ขาดช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดไประยะหนึ่ง แต่ก็ยังเป็นผลดำเนินงานที่น่าพอใจ
สำหรับผลดำเนินงานเป็นรายกลุ่มผลิตภัณฑ์ มีดังนี้
- เครื่องปรับอากาศ ยอดขายรวม 3,117 ล้านบาท เติบโต 9% ขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดแอร์หากวัดจากจำนวนเครื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาด 7%
- ตู้เย็น ยอดขายรวม 1,673 ล้านบาท เติบโต 27% ขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 4 มีส่วนแบ่งตลาด 1% จากเดิมเคยอยู่ในอันดับ 7 โดยการเติบโตที่ดีมาจากการขายตู้เย็นหลายประตูที่มีดีมานด์สูง
- เครื่องซักผ้า ยอดขายรวม 1,166 ล้านบาท เติบโต 39% เป็นแบรนด์อันดับ 4 ในตลาด
- ตู้แช่ ยอดขายรวม 792 ล้านบาท เติบโต 32% เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาด มีส่วนแบ่ง 38%
- ทีวี ยอดขายรวม 410 ล้านบาท เติบโต 111%
- เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ยอดขายรวม 300 ล้านบาท เติบโต 76%
- เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ยอดขายรวม 178 ล้านบาท เติบโต 89% (ตัวอย่างสินค้า เช่น เตาอินดัคชั่น หม้อหุงข้าว เครื่องปั่น)
- เครื่องทำน้ำอุ่น ยอดขายรวม 170 ล้านบาท เติบโต 45%
ทั้งนี้ สำหรับช่องทางขาย ไฮเออร์ทำยอดขายผ่านอี-คอมเมิร์ซไป 643 ล้านบาท เติบโต 132% โดยหมวดสินค้าที่ขายดีผ่านออนไลน์คือกลุ่มแอร์และตู้เย็น โดยเฉพาะตลาดระดับกลางถึงล่าง
Yudee โมเดลใหม่ให้ลูกค้าผ่อน 0%
“วรลักษณ์ นพวงศ์ ณ อยุธยา” ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอยู่ดี บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงโมเดลธุรกิจใหม่ในปี 2565 บริษัทจะเปิดโมเดล “Yudee” (อยู่ดี) ให้ลูกค้าสามารถผ่อน 0% สินค้าไฮเออร์ในกลุ่มแอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ตู้แช่ และโทรทัศน์ ระยะเวลาตั้งแต่ 12-24 เดือน กลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิต และลูกค้าที่มีบัตรเครดิตแต่ไม่ต้องการเสียวงเงินในบัตรไปกับการผ่อนสินค้าชิ้นใหญ่
ลูกค้าที่จะผ่อนผ่าน Yudee สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Yudee มาใช้ในการชำระเชื่อมต่อกับโมบายแบงกิ้ง โดยในแอปฯ นี้จะมีฟังก์ชันเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้า IoT ของไฮเออร์ได้ด้วย สามารถใช้แอปฯ ทำหน้าที่เหมือนรีโมตกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ เช่น เปิด-ปิดปรับอุณหภูมิแอร์
วรลักษณ์วางเป้าหมายลูกค้าผ่อนผ่าน Yudee ปี 2565 เป้ามีผู้ใช้งาน 58,000 ราย มูลค่ายอดขาย 338 ล้านบาท และเติบโตจนถึงปี 2567 มีผู้ใช้งาน 200,000 ราย มูลค่ายอดขาย 1,200 ล้านบาท กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดึงลูกค้า
ปี 2565 วางเป้าโตอีก 33% เน้นกลุ่มทำความเย็น-ทีวี
ด้าน “ปิยะศักดิ์ ศรีบัว” ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ไฮเออร์ กล่าวถึงตลาดปีหน้าว่า แบรนด์จะยังเน้นตลาดในกลุ่มทำความเย็น คือ แอร์ ตู้เย็น ตู้แช่ ซึ่งแบรนด์มีความแข็งแกร่งในตลาด รวมถึงจะเน้นการทำตลาดกลุ่ม “ทีวี” ซึ่งปีนี้จะเห็นได้ว่ายอดขายเติบโตสูงมากโดยเฉพาะทีวีขนาดใหญ่ ทำให้ปีหน้าไฮเออร์จะลุยออกทีวีรุ่นใหม่ถึง 17 รุ่น
ธีมการออกสินค้าในปีหน้าจะเน้นเรื่องฟังก์ชัน Smart Home เป็นสินค้านวัตกรรม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าคำสั่งเสียงที่เชื่อมต่อกับระบบ Google Assistant หรือ Alexa
ด้านการพัฒนากลยุทธ์การขายและการตลาด จะมีการปรับหน้าร้านดีลเลอร์ให้โชว์นวัตกรรมของไฮเออร์มากขึ้น และจะมีการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอนของแบรนด์เพื่อวางภาพลักษณ์เป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสุขภาพลูกค้า เสริมด้วยการใช้ KOL รีวิวสินค้าเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าได้ง่ายขึ้น
ธเนศร์กล่าวว่า เป้าหมายรายได้ปีหน้าของไฮเออร์จะยังโตต่อเนื่อง ตั้งเป้า 10,500 ล้านบาท เติบโต 33% จากปีนี้ ขณะที่ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย คาดว่าปี 2564 จะอยู่ที่ 84,000 ล้านบาท และปี 2565 น่าจะขึ้นไปแตะ 86,000 ล้านบาท เติบโต 4% ตามสภาพเศรษฐกิจที่น่าจะฟื้นตัว ยกเว้นว่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะมีผลกระทบในไตรมาส 1 มากกว่าที่คาดไว้
ส่วนข้อกังวลสำหรับปีหน้า ยังกังวลเรื่องกำลังซื้อของคนไทย แม้ว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น แต่ผลกระทบจากช่วง COVID-19 อาจจะยังมีอยู่ รวมถึงกังวลในแง่การจัดการต้นทุน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบการผลิตสูงขึ้น ค่าขนส่งสูงขึ้น แต่ไฮเออร์ได้วางแผนรับมือไว้แล้ว และคาดว่าต้นทุนที่กระทบกับทุกเจ้าในตลาดน่าจะทำให้การทำสงครามราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงในปีหน้า