“นารายา” เปิดเชลฟ์ขายใน “โลตัส” เบนเข็มหาลูกค้าไทย ในวันที่ทัวร์จีนยังไม่กลับมา

“นารายา” แบรนด์กระเป๋าผ้าขวัญใจชาวต่างชาติ จับมือกับ “โลตัส” เปิดเชลฟ์วางขายสินค้าในไฮเปอร์มาร์เก็ตเป็นครั้งแรกที่สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หวังจับลูกค้าชาวไทยมากขึ้น หลัง COVID-19 ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เข้ามาเหมือนเดิม 

เจาะช่องทางไฮเปอร์ครั้งแรก

ใครที่เป็นแฟนกระเป๋าผ้าสัญชาติไทย “นารายา” คงจะทราบดีว่า แบรนด์นี้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก ยิ่งสาขาที่อยู่ในศูนย์การค้าในเมือง จะเห็นนักท่องเที่ยวเข้าเต็มร้าน ซื้อเป็นของฝากกันอย่างถล่มทลาย

แต่แล้ว COVID-19 ก็เป็นเหมือนฟ้าผ่า ที่ทำให้ชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้เหมือนเดิม แบรนด์ไหนที่แต่เดิมจับลูกค้ากลุ่มต่างชาติเป็นหลัก จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อประคองธุรกิจ และหาหมัดเด็ดเพื่อให้เข้าถึงคนในประเทศมากขึ้น

naraya lotus

ก่อนหน้านี้นารายามีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางช็อปของตัวเองเป็นหลัก โลเคชั่นที่ตั้งส่วนใหญ่จะอยู่ในเมือง หรือแหล่งท่องเที่ยว เช่น เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, บิ๊กซี ราชดำริ, สุขุมวิท 24, ไอคอนสยาม, เซ็นทรัลวิลเลจ และอื่นๆ อีกหลายที่

เมื่อสถานการณ์ยังไม่เป็นปกติ ทำให้นารายาต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ด้วยการขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้มากขึ้น เพราะแค่หน้าร้าน และออนไลน์คงไม่เพียงพอ ล่าสุดจึงได้ขยายเข้าสู่เชลฟ์ “โลตัส” ถือว่าเป็นการขายบนไฮเปอร์มาร์เก็ตเป็นครั้งแรก ประเดิมสาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราเป็นแห่งแรก

naraya lotus

วาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เล่าว่า

“ความร่วมมือกับโลตัสในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทย ด้วยเป็นครั้งแรกที่สินค้าของนารายาจะวางจำหน่ายผ่านช่องทาง Hypermarket จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คนไทยรู้จักและหันมาใช้สินค้าของนารายามากขึ้น โดยในช่วงแรกเน้นวางสินค้าที่ใช้ง่ายๆ เช่น กระเป๋าหลากหลายรูปแบบและขนาด ผ้ากันเปื้อน รองเท้าสำหรับใส่ในบ้าน ส่วนในอนาคตอาจเติบโตต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ชุดนอน เป็นต้น”

ปรับตัวต่อเนื่อง หน้ากากผ้า-ช้อปออนไลน์

ตั้งแต่ปี 2020 ที่ต้องเจอวิกฤต COVID-19 ทำให้นารายาต้องแก้เกม ปรับตัวยกใหญ่ ในช่วงแรกมีการผลิตหน้ากากผ้าที่สามารถซักได้เป็นแบรนด์แรกๆ รวมถึงการดีไซน์สินค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ลวดลายให้เข้ากับจริตคนไทย รวมไปถึงการเข้าสู่ช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น เพื่อขยายช่องทางการขาย

การจับมือกับพันธมิตรก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่นารายาได้ทำมาตลอดในช่วง 2 ปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับแบรนด์ต่างๆ ในการทำหน้ากากผ้า หรือกระเป๋าผ้า สำหรับเป็นของสมนาคุณ

“โลตัส” ขอเติมส่วนไลฟ์สไตล์

การจับมือกันของทั้ง 2 แบรนด์ในครั้งนี้ ทางนารายาได้ขยายช่องทางการขายใหม่ๆ ให้เข้าถึงคนไทยมากขึ้น ทางโลตัสเองก็ได้เริ่มรีแบรนด์ ปรับภาพลักษณ์ตัวเองมากขึ้น ปรับภาพจากไฮเปอร์มาร์เก็ต เป็นห้างไลฟ์สไตล์ จึงจำเป็นต้องเติมแม็กเน็ตต่างๆ ที่ดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น

การได้แบรนด์นารายาเข้ามาเติมบนเชลฟ์ก็ถือว่าเสริมภาพไลฟ์สไตล์ให้มากขึ้น เพราะเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จัก มีชื่อเสียง อีกทั้งสินค้าที่จำหน่ายที่โลตัสจะเป็นลายที่ออกแบบพิเศษ จำหน่ายแค่ที่โลตัสที่เดียวเท่านั้นด้วย

(Photo : Shutterstock)