“แกรนด์ ยูนิตี้” กลับมาบุกตลาด ส่งแบรนด์ใหม่ “บลู” 3 โครงการเจาะทำเลในซอย

แกรนด์ ยูนิตี้
หลังจาก “แกรนด์ ยูนิตี้” ไม่เปิดโครงการใหม่เลยเมื่อปีก่อน ปีนี้กลับมาบุกตลาดอีกครั้งผ่านคอนโดฯ “บลู” 3 ทำเล พหลโยธิน 35, สุขุมวิท 89 และสุขุมวิท 105 โดยเป็นแบรนด์ใหม่เน้นโครงการเล็กทำเลในซอย ราคา 75,000-100,000 บาทต่อตร.ม.

“ทัดดาว จิระสวัสดิ์” รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด เปิดแถลงข่าวการดำเนินงานปี 2564-2565 โดยเมื่อปีก่อนบริษัทปิดยอดพรีเซลได้ 3,300 ล้านบาท ยอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่า 1,600 ล้านบาท โดยไม่มีการเปิดโครงการใหม่เลย ทั้งหมดเป็นยอดขายโครงการเดิมในมือ และสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ที่โครงการ เซียล่า ศรีปทุม

สำหรับปี 2565 บริษัทจะมีการเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ “บลู” ทั้งหมด ปีนี้ตั้งเป้ายอดพรีเซล 2,700 ล้านบาท และเป้ายอดโอน 3,500 ล้านบาท จากโครงการที่จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ปีนี้ 3 แห่ง คือ เซียล่า เจริญนคร, เดนิม จตุจักร และอนิล สาทร 12

คอนโดฯ “บลู” นั้นวางคอนเซ็ปต์ให้เป็นโครงการขนาดเล็ก ก่อสร้างเป็นตึกเตี้ย ทำเลในซอย ราคาจับต้องได้ประมาณ 75,000-100,000 บาทต่อตร.ม. เป้าหมายกลุ่มลูกค้าคนหนุ่มสาวอายุประมาณ 30 ปี เป็นคนทำงานที่ต้องการที่อยู่อาศัยในเมือง คาแรกเตอร์แบรนด์และการออกแบบ façade ตึกจะเป็นสีฟ้า สื่อถึงอิสระ ความคิดสร้างสรรค์

ปีนี้จะมีการเปิดคอนโดฯ บลู 3 โครงการ 3 ทำเล คือ พหลโยธิน 35, สุขุมวิท 89 และสุขุมวิท 105

เริ่มจาก “บลู พหลโยธิน 35” เตรียมเปิดตัวก่อนในวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์นี้ มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เป็นคอนโดฯ บนที่ดิน 2 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35 ที่สามารถเข้าออกได้ทั้งฝั่งถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี และถนนรัชดาภิเษก (ห่างจาก BTS รัชโยธิน 1.5 กม.) จำนวนห้องชุด 322 ยูนิต ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนและ 1 ห้องนอนพลัส พื้นที่ใช้สอย 24-37 ตร.ม. ชูจุดเด่นพื้นที่ส่วนกลางใหญ่เหมาะกับชีวิตการ Work from Home ราคาเริ่ม 1.89 ล้านบาท ตกแต่งแบบฟูลลี่เฟอร์นิช

ผังโครงการคอนโดฯ บลู พหลโยธิน 35 ออกแบบตึกสองตึกหันหน้าเข้าส่วนกลางขนาดใหญ่

ส่วนอีกสองโครงการยังไม่เปิดเผยไทม์ไลน์ช่วงที่จะเปิดตัว แต่จะมีการเปิดตัวภายในปีนี้แน่นอน ด้วยราคาที่แข่งขันได้ในทำเลตามคอนเซ็ปต์แบรนด์

 

วาง 6 แบรนด์หลักลุยตลาดคอนโดฯ

แกรนด์ ยูนิตี้ฯ ถือว่าค่อนข้างเงียบหายไปจากการเปิดตัวใหม่ 1-2 ปีในช่วงภาวะตลาดหดตัวจาก COVID-19 ซึ่งประเด็นนี้ทัดดาวกล่าวว่า เกิดจากบริษัทไม่ได้เร่งการเติบโตทุกปีเหมือนกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์

“ปี 2564 เราไม่ได้เปิดใหม่เลย อาจจะเป็นเพราะเราไม่ใช่บริษัทมหาชน ทำให้เราไม่ถูกกดดันการทำโครงการใหม่ออกมาทุกปี เราก็ค่อยๆ พัฒนาแบบไปจนมั่นใจแล้วค่อยเปิดตัวได้” ทัดดาวกล่าว ทั้งนี้ ระหว่างวิกฤต COVID-19 บริษัทไม่ได้มีการเลย์ออฟพนักงาน ยังคงรักษาความมั่นคงได้

“ทัดดาว จิระสวัสดิ์” รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด

ด้านการจัดแบรนด์ลงสู่ตลาด หลังจากปีนี้มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่มาบุกตลาดกลางล่างแล้ว จะมีแบรนด์ใหม่เร็วๆ นี้ในกลุ่มตลาดบนด้วย ทำให้แบรนด์ของแกรนด์ ยูนิตี้ฯ ในระยะต่อไปจะแบ่งเป้าหมาย ดังนี้

  • เดนิม (Denim) – ระดับราคาจับต้องได้ ออกแบบเป็นโครงการขนาดใหญ่ 5 ไร่ขึ้นไป ตัวอย่างโครงการ เช่น เดนิม จตุจักร
  • บลู (blue) – ระดับราคาจับต้องได้ ออกแบบเป็นโครงการเล็ก ตึกเตี้ย ทำเลในซอย ตัวอย่างโครงการ เช่น บลู พหลโยธิน 35
  • เซียล่า (CIELA) – ระดับราคาตลาดกลาง ทำเลขอบเมืองแต่ใกล้รถไฟฟ้า ทำให้การเข้าเมืองง่ายแต่ยังได้ความสงบ ตัวอย่างโครงการ เช่น เซียล่า เจริญนคร, เซียล่า จรัญ 13
  • แมสซารีน (Mazarine) – ระดับราคาตลาดบน ตัวอย่างโครงการ เช่น แมสซารีน รัชโยธิน
  • ไคลน์ (KLEIN) – ระดับราคาตลาดบน ตัวอย่างโครงการ เช่น ไคลน์ ทองหล่อ (*แบรนด์ใหม่ โครงการใหม่รอการเปิดตัว)
  • อนิล (Anil) – ระดับซูเปอร์ลักชัวรี เน้นสุขภาวะที่ดีของผู้อยู่อาศัย ตัวอย่างโครงการ เช่น อนิล สาทร 12

แกรนด์ ยูนิตี้

ทัดดาวเชื่อว่าปีนี้ตลาดคอนโดฯ จะกลับมาคึกคักขึ้น เพราะดีเวลอปเปอร์ที่ชะลอการเปิดตัวไปเหมือนกันในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็น่าจะกลับมาเปิดใหม่เช่นกัน เพียงแต่จะระวังกันมากขึ้น เลือกเปิดโครงการที่มั่นใจ และใส่ใจในการออกแบบ พัฒนา ทำการตลาดมากกว่าเดิม ไม่เหมือนช่วงคอนโดฯ ยอดขายดีซึ่งมีการ ‘copy+paste’ ลงโครงการกันอย่างรวดเร็ว

อย่างบลู พหลโยธิน 35 ที่แกรนด์ ยูนิตี้เลือกเปิดโครงการแรก เพราะทำเลรัชโยธินนี้มีอัตราการขายคอนโดฯ เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 44% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ดี แม้แต่ในช่วง COVID-19 อัตราการขายก็ไม่ตกลงมาก เพราะทำเลเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเดิมทำให้จะมีลูกหลานแยกครอบครัวในทำเลเดิม และมีแหล่งงาน เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ มีโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า การขายคอนโดฯ จึงไม่ตกลงเท่าทำเลอื่น

“แต่ปีนี้การขายคอนโดฯ จะไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่เปิดมาแล้วนักลงทุนรีบซื้อจน sold out ผู้ซื้อวันนี้จะเป็นเรียลดีมานด์ ซื้ออยู่จริง” ทัดดาวกล่าวปิดท้ายถึงสถานการณ์คอนโดฯ ปี 2565 “เป้ายอดขายของโครงการเปิดใหม่จะไม่สูงนัก เพราะจากประสบการณ์ของเราพบว่า เรียลดีมานด์เขาจะอยากดูของจริงก่อน ทำให้ยอดขายจะมาหลังตึกเสร็จ และเขาจะกังวลเรื่องสินเชื่อ ทำให้เราต้องดูแลลูกค้าใกล้ชิดเพื่อช่วยเรื่องเอกสารการยื่นกู้”