สยามคิริน กำลังหาจุดยืนที่ชัดเจน และแข็งแรงของตัวเองในตลาดชาพร้อมดื่ม หลังจากความพยายามของชาเขียวพร้อมดื่ม “นะมาชะ” ที่เคยทุ่มทุนสร้าง ใช้เบิร์ด-ธงชัย แมคอินไตย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่ประสบความสำเร็จจนต้องร้างลาไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันจึงเหลือรสต้นตำรับเพียง SKU เดียว
“ที เบรค” (Tea Break) ชาอังกฤษ ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน กลายเป็นสินค้าหลักและต่อลมหายใจของสยามคิรินได้ เนื่องจากยังทำยอดขาย และสร้างส่วนแบ่งการตลาดได้ในเซ็กเมนต์ “ชาดำ” ที่อิงแอบอยู่กับชาพร้อมดื่มอีกที
อิเดยูกิ อิวาโอะ ประธานบริษัท สยามคิริน เบฟเวอร์เรจ จำกัด บอกว่า ที เบรค มีการปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้ดูสดใส และมีความสวยงามมากขึ้น แต่ยังยึดจุดขายของชาอังกฤษเช่นเคย และครั้งนี้มุ่งเน้นสื่อสารด้วยประเด็นที่แตกต่างจากคู่แข่งชาพร้อมดื่มในตลาด คือ “ความหอม” ซึ่งเดิมการสื่อสารไม่เพียงพอ คนรู้ว่าเป็นชาอังกฤษ แต่ไม่รู้ว่าแตกต่างอย่างไร
ที เบรค ถูกจัดอยู่ในตลาดชาดำพร้อมดื่ม มีอัตราการเติบโต 35% ในปีที่ผ่านมา และคิดเป็นสัดส่วน 20% ของตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโต 25%
หากวิเคราะห์เฉพาะตลาดชาดำพร้อมดื่มพบว่า มีผู้นำอย่างลิปตัน ไอซ์ที แทรกด้วยโออิชิ แบล็ค ที และ คูลที ของอาเจ ไม่ได้มีการแข่งขันที่ดุเดือดเท่ากับเซ็กเมนต์ชาเขียวพร้อมดื่ม และยังคงเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตในระดับสูง
ในส่วนของการการใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นครั้งแรกนี้ สยามคิรินหวังว่า บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หนึ่งในพระเอกเลือดใหม่ของช่อง 3 จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น คนทำงานรุ่นใหม่ที่อายุ 18-29 ปี ได้มากขึ้น โดยใช้งบ 100 ล้านบาท และให้น้ำหนักกับ TVC มากที่สุด โดยสัดส่วนของ Above the line คิดเป็น 65% และ Below the line คิดเป็น 35%
เมื่อสินค้าปรับใหม่แล้ว ช่องทางการกระจายสินค้าก็ต้องปรับตามไปด้วย ได้มีการทำงานร่วมกับบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์มากขึ้น เพื่อเพิ่มเติมช่องทางเทรดดิชั่นแนล เทรด ที่เป็นจุดตายทำให้นะมาชะ ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นต้องพ่ายแพ้จนแทบสิ้นชื่อในไทย
แผนในอนาคตได้เตรียมออกรสชาติใหม่อาจจะเป็น 2 รสชาติ และเปิดตัวบรรจุภัณฑ์แบบกล่องยูเอชทีด้วย ขณะนี้ ที เบรค มีส่วนแบ่งการตลาด 6.5% ในตลาดชาดำพร้อมดื่มมูลค่า 1,400 ล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขายราว 91 ล้านบาท และคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 12%
สัดส่วนตลาดชาพร้อมดื่ม | |
ชาเขียว | 60% |
ชาดำ | 20% |
ชาขาว | 20% |