ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ‘รัสเซีย’ เคลื่อนกองกำลังทหารนับแสนนายเข้าประชิดชายแดน ‘ยูเครน’ และมีการซ้อมรบที่ประเทศเบลารุสห่างจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนไปแค่ 340 กิโลเมตร สื่อถึงท่าทีว่าพร้อมจะถล่มเพราะไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO)
จากเหตุการณ์ที่ตึงเครียดดังกล่าว นักยุทธศาสตร์อย่าง David Roche ได้คาดการณ์ว่าหาก รัสเซียบุกยูเครน ราคาน้ำมันจะพุ่งแตะระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอย่างแน่นอน และ เศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง แม้ทางรัสเซียจะปฏิเสธว่ามีแผนจะบุกยูเครน แต่กลับเคลื่อนย้ายทหารกว่า 130,000 นาย รถถัง และขีปนาวุธ ไปยังชายแดน
“หากว่ารัสเซียบุกยูเครนและเกิดการคว่ำบาตรรัสเซีย อาจทำให้รัสซียไม่สามารถส่งออกสินค้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซ หรือถ่านหิน และในเวลานั้นราคาน้ำมันจะพุ่งไปที่ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอย่างแน่นอน”
ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับการส่งมอบเดือนเม.ย.มีการซื้อขายลดลงเล็กน้อยที่ประมาณ 90.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี โดยอยู่ในระดับ 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 5,529 คนจาก 7 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ณ สิ้นเดือนมกราคม สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งยุโรป พบว่า คนส่วนใหญ่ในทุกประเทศที่ทำการสำรวจเชื่อว่ารัสเซียจะบุกยูเครน ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ยังกล่าวด้วยว่าพวกเขาเชื่อว่านาโตและสหภาพยุโรปควรร่วมกันปกป้องยูเครน หากรัสเซียบุกเข้ามา