หุ้น ‘Moderna’ และ ‘Pfizer’ พากันร่วง หลังการระบาดของโควิดเริ่มลดลง

Photo : Shutterstock
เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ได้คลี่คลายลง อย่างจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในสหรัฐอเมริกาก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หุ้นของผู้ผลิตวัคซีนต่างร่วงไปตาม ๆ กัน หลายคนมองว่าหุ้นของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนอาจลดลงได้อีกหากความต้องการวัคซีนลดลง
  • หุ้นของ Moderna ร่วงลงมากกว่า -11%
  • Pfizer ร่วงลงเกือบ -2%
  • BioNTech ลดลงมากกว่า -9%
  • Novavax ลดลงมากกว่า -11%
  • Johnson & Johnson ลดลงมากกว่า -1%

ดร.แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาว กล่าวกับ Financial Times ว่า สหรัฐฯ กำลังออกจาก “การระบาดใหญ่ของ COVID-19 อย่างเต็มรูปแบบ” โดยมีจำนวนผู้ป่วยโควิดรายใหม่ประมาณ 175,000 รายต่อวัน ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ถือว่าลดลง 42% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ป่วยเมื่อช่วงวันที่ 15 มกราคม มีมากกว่า 800,000 รายต่อวัน

โดยประมาณ 64% ของประชากรสหรัฐฯ ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน จากทั้ง ไฟเซอร์, โมเดอร์นา และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โดยระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือนกว่า สัดส่วนคนอเมริกันที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบโดสเพิ่มจาก 40% เป็น 50% และอีก 4 เดือนจะไปถึงระดับ 60%

ทั้งนี้ Pfizer และ BioNTech กำลังพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ โดย อัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Pfizer กล่าวว่า วัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอมิครอนจะพร้อมในเดือนมีนาคม แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าวัคซีนใหม่จะมีความจำเป็นหรือไม่ หากจำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่อง

ที่น่าสนใจคือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สเตฟาน บานเซล ซีอีโอของ Moderna ขายหุ้นบริษัท 19,000 หุ้น รวมเป็นเงิน 2.9 ล้านดอลลาร์ และลบบัญชี Twitter ของเขาหลังจากไม่ได้ใช้งานมาสองปี จนทำให้เกิดคำถามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

Source