10 เรื่องน่ารู้กับตำนาน “โรงแรมนารายณ์” ก่อนพลิกโฉมสู่ “ตลาดลักชัวรี่”

หลังจากมีกระแสการทุบโรงแรมในตำนานอย่าง “โรงแรมนารายณ์” ที่อยู่คู่ย่านสีลมมายาวนานกว่า 54 ปี ขอพาไปทำความรู้จักถึงเรื่องน่ารู้ของโรงแรมแห่งนี้ ก่อนที่จะทำการพลิกโฉมสู่โรงแรมระดับลักชัวรี่ในอนาคต คาดว่าจะเปิดทำการในอีก 4 ปีข้างหน้า

1. ตั้งชื่อจากมหาเทพ

โรงแรมนารายณ์ก่อตั้งเมื่ปี 2511 เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล “นิธิวาสิน” ชื่อของโรงแรมถูกตั้งจากแนวคิดของทีมผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นทุกคน ที่นำเอาความยิ่งใหญ่ของชื่อ “พระนารายณ์” เป็นชื่อของทั้งพระมหากษัตริย์ไทย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดี (ที่ 3) พระมหากษัตริย์ในรัชกาลที่ 27 สมัยกรุงศรีอยุธยา และพระนามของพระนารายณ์ มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

2. บุกตลาดโรงแรมขนาดใหญ่

โรงแรมนารายณ์ เป็นโรงแรม 4 ดาวย่านถนนสีลม อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรีประมาณ 5 นาที อยู่ไม่ไกลจากวัดแขก ลักษณะเป็นอาคาร 12 ชั้น มีจำนวนห้องพัก 475 ห้อง ห้องพักบริการลูกค้ามีทั้งหมด 7 ประเภท ได้แก่ ห้องสแตนดาร์ด, ห้องสุพีเรียร์, ห้องเดอลักซ์, ห้องเดอลักซ์สวีต, ห้องแฟมิลีสวีต, ห้องเอ็กเซกคิวทีฟสวีต และห้องนารายณ์สวีต

แนวคิดการก่อตั้งโรงแรมนารายณ์ เกิดจากรุ่นคุณปู่ เป็นเจน 1 ของบริษัท และผู้ถือหุ้น เห็นโอกาสในการเติบโตด้านความต้องการห้องพัก และโรงแรมขนาดใหญ่ เนื่องจากช่วงนั้นประเทศไทยเป็นเจ้าภาพงานระดับนานาชาติอยู่เรื่อยๆ

โรงแรมนารายณ์เมื่อ 54 ปีก่อน

แต่เดิมบริษัทมีโรงแรมวิคตอรี่ ขนาด 125 ห้องอยู่แล้ว แต่การมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในอนาคต จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เริ่มขยายกิจการ โดยผู้ถือหุ้นท่านอื่นๆ ในสมัยนั้นก็เห็นตรงกันว่า ถนนสีลมนั้นมีศักยภาพสูงมากในการที่จะเป็นถนนสายธุรกิจได้

3. โรงแรมอื่นๆ ในเครือ

นอกจากโรงแรมนารายณ์แล้ว ยังมีโรงแรมในเครือ ได้แก่

  • โรงแรมทริปเปิ้ลทู สีลม โรงแรมสไตล์บูติก จำนวน 75 ห้อง
  • โรงแรมอมันตา โฮเต็ล แอนด์ เรสซิเดนซ์ สาทร โรงแรมสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ จำนวน 66 ห้อง ในซอยงามดูพลี ถนนสาทร
  • โรงแรมอมันตา โฮเต็ล แอนด์ เรสซิเดนซ์ รัชดา โรงแรมสไตล์โมเดิร์นลักชัวรีย่านถนนรัชดาภิเษก ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
  • โรงแรมริเวอร์ไรน์เพลส โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ กับโครงการที่พักอาศัย นายา เรสซิเดนซ์ ที่พักอาศัยวัยอิสระริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.นนทบุรี
  • เกสต์เฮาส์ที่ชื่อว่า หลับดี (Lub D) ที่กรุงเทพฯ (ถนนพระราม 1), หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต, เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี, เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา และย่านมาคาติ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นต้น

4. ทายาทเจน 3 สานต่อธุรกิจ

โรงแรมนารายณ์ถือว่าเป็นโรงแรมที่เกิดจากธุรกิจครอบครัว บริหารงานโดยทีมผู้บริหารคนไทยทั้งหมด ไม่ใช่เชนโรงแรมใหญ่จากต่างประเทศ ทำให้การจัดการง่ายปรับตัวได้รวดเร็ว และเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย

ปัจจุบันการบริหารได้ส่งต่อถึงทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลแล้ว “นที นิธิวาสิน” กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด ได้เข้ามารับช่วงต่อจากคุณพ่อในช่วงปี 2551

5. ปักหมุด 5 ไฮไลต์สุดว้าว

  • มีห้องพักถึง 500 ห้อง ซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีโรงแรมไหนมีห้องพักเยอะระดับนี้
  • ภัตตาคารหมุน 360 องศา ที่แรกในเมืองไทย ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจ
  • ร้านนารายณ์พิซซาเรีย (Narai Pizzeria) มีพิซซ่าต้นตำหรับของเมืองไทย
  • ห้องอาหารระเบียงทอง เป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ และในยุคนั้นยังเสิร์ฟ “ปลาแซลมอนซาซิมิ” ในไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ เป็นเจ้าแรกในเมืองไทย
  • เป็น Wedding Destination ของคู่รักในยุคนั้น เพราะมีห้องนารายณ์ บอลรูมที่มีขนาดใหญ่สามารถรองรับแขกได้ถึง 1,000 คน สามารถรับงานสำคัญๆ ของประเทศหลายๆ งานมาแล้ว
ภัตตาคาร 360 องศา

6. เปิด 6 สถิติตลอด 54 ปี

  • ให้บริการห้องพักมาทั้งหมดกว่า 7,590,000 ห้อง 
  • มีจำนวนผู้เข้าพักมากกว่า 15,180,000 คน
  • ห้องอาหารระเบียงทองมีแขกเข้ามารับประทานอาหารราว 30 ล้านคน
  • ร้านนารายณ์พิซซาเรีย (Narai Pizzeria) จำหน่ายพิซซ่าได้มากกว่า 3,550,000 ถาด
  • ใช้ชีสคิดเป็นปริมาณกว่า 1,600,000 กิโลกรัม
  • มีคู่รักแต่งงานที่จัดงานแต่งงานกับโรงแรมมากกว่า 5,200 คู่รัก 

7. พลิกโฉมสู่ตลาดลักชัวรี่

ในปีนี้เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโรงแรมนารายณ์ เนื่องด้วยเทรนด์ของตลาดโรงแรมที่เปลี่ยนไป และยุคสมัย ประกอบกับความท้าทายในยุค COVID-19 จึงทำให้ต้องมีการขยับตัว เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ดังนั้นถ้าจากนี้จะทำให้ธุรกิจให้ยืนยาวได้ตลาดลักชัวรี่ที่จะเข้ามาในอนาคตจึงน่าจับตามอง นี่ถือเป็นความท้าทายที่เราต้องเริ่มเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ เพื่อให้กลับขึ้นมาทันกระแส จึงได้ตัดสินใจทุบโรงแรม แล้วพลิกสู่โฉมใหม่ทั้งหมด เพื่อเข้าสู่ตลาดหรู

8. มีทั้งโซนทั่วไป และที่พักหรู

คาดว่าโครงการใหม่จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ย่านสีลม แบ่งพื้นที่หลักๆ เป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นพื้นที่เปิดเพื่อให้กลุ่มคนหลายๆ กลุ่มได้เข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกันได้ อาทิ กลุ่มคนวัยทำงาน กลุ่มครอบครัวก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกันมีที่ให้นั่งพักผ่อน มีร้านอาหารที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ มีพื้นที่ในการขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม ร้านอาหารตามสั่ง ฯลฯ ที่สะอาดเหมาะสมมีค่าเช่าพื้นที่ในราคาที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถทำกำไรให้ร้านของตัวเองได้ง่ายมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังมีกลิ่นอายของความทรงจำ ให้ได้เห็น ให้ได้นึกถึงอยู่

ส่วนอีกโซนจะเป็นโซนห้องพักในระดับลักชัวรี่ โดยครั้งนี้เราจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปี

พร้อมกับอันเชิญองค์พระนารายณ์ ที่อยู่คู่โรงแรมมาตั้งแต่เริ่มต้น ลงมาไว้ให้คนทั่วไปได้สักการะ หวังให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ในย่านสีลมด้วยครับ

9. อสังหาฯ ปรับให้ทันต่อยุค COVID-19

เนื่องจากสถานการณ์ของ COVID-19 ทำให้หลายธุรกิจต้องเจอกับความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม ที่ไม่สามารถเปิดให้บริการตามปกติได้ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่เข้าประเทศ คนในประเทศก็ไม่สามารถเที่ยวได้ตามปกติเท่าไหร่ เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจึงได้เห็นโรงแรมต่างปรับตัวให้ทัน ไม่ว่าจะปรับเรื่องแพ็กเกจให้อยู่รายเดือนในราคาถูก หรือทำข้าวกล่อง ขายอาหาร เพื่อหารายได้เพิ่ม

10. สมรภูมิสีลมเดือด

ก่อนหน้านี้ในกรุงเทพฯ ได้เคยมีโรงแรมเก่าที่ทุบทิ้ง และก่อสร้างใหม่เช่นกัน ได้แก่ โรงแรมดุสิตธานี ถนนพระราม 4 สี่แยกศาลาแดง ได้ทุบทิ้งโรงแรมเดิมสูง 23 ชั้น มาตั้งแต่ปี 2562 เพื่อก่อสร้างโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่างกลุ่มดุสิตธานีกับเซ็นทรัลพัฒนา มูลค่าโครงการรวมกว่า 36,700 ล้านบาท

ยิ่งทำให้การแข่งขันในโซน CBD ย่านธุรกิจอย่างสีลมดุเดือดมากขึ้น ยิ่งถ้าโครงการไหนไม่ปรับตัว ก็คงอยู่ยาก…