“นารายณ์​ฯ” วางแผนขยายพอร์ตโรงแรมเป็น “เท่าตัว” ภายใน 5 ปี เล็งตลาด “ญี่ปุ่น” มาแรง

นารายณ์ โรงแรม
มาราสก้า เขาใหญ่
“นารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” แย้มเป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้า ต้องการขยายพอร์ตโรงแรมเพิ่มจำนวนเป็นเกือบ “เท่าตัว” จากปัจจุบันมี 15 แห่งทั้งที่เปิดบริการแล้วและอยู่ในไปป์ไลน์ อนาคตต้องการเพิ่มเป็น 26 แห่ง เล็งตลาดหลักหาช่องทางขยายตัวในญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 “นารายณ์​ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” ประกาศทุบตึกโรงแรมนารายณ์ กรุงเทพฯ โรงแรมที่อยู่คู่ถนนสีลมมานาน 54 ปี เพื่อจะสร้างโรงแรมขึ้นใหม่ให้ทันสมัยและอัปเกรดมากขึ้น

นอกจากการรีโนเวตโรงแรมในตำนานแล้ว ปีที่แล้วนารายณ์ฯ ยังเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “มาราสก้า โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต” (Marasca Hotel & Resort) อีกด้วย เป็นแบรนด์ที่มาจับกลุ่ม ‘แคชชวลลักชัวรี’ โรงแรมระดับ 5 ดาวคอนเซ็ปต์หรูหราแต่เรียบง่าย เป็นกันเอง และผ่อนคลาย

เห็นได้ว่าปีก่อนเป็นปีที่นารายณ์ฯ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นหมุดหมายสู่ยุคใหม่ของกลุ่ม

นารายณ์ โรงแรม
บรรยากาศแกลมปิ้งใน มาราสก้า เขาใหญ่

มาถึงปี 2566 ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ “โทมัส เทต” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป โทมัสระบุถึงเป้าหมายระยะยาวของบริษัทว่า นารายณ์ฯ ต้องการจะขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมขึ้นเป็น “เท่าตัว”

จากปัจจุบันที่ให้บริการและที่อยู่ในไปป์ไลน์ 15 แห่ง ภายใน 5 ปีต้องการเพิ่มเป็น 26 แห่ง ทั้งนี้ ขอสงวนไม่ระบุตัวเลขการลงทุนหรือมูลค่าโครงการ

นารายณ์ฯ นั้นเป็นเจ้าของโรงแรม (Owner) ทุกแห่ง และส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารโรงแรมด้วยตนเอง (Management) ในจำนวนโรงแรม 15 แห่งแบ่งออกได้ ดังนี้

“ใช้ระบบบริหารของตนเอง”
  • หลับดี (Lub D)
    เปิดให้บริการแล้ว 6 แห่ง – สยาม กรุงเทพฯ, หาดป่าตอง ภูเก็ต, เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี, เสียมเรียบ กัมพูชา, มาคาติ ฟิลิปปินส์ และโอซาก้า ญี่ปุ่น
    อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 แห่ง – เยาวราช กรุงเทพฯ, เกาะเต่า สุราษฎร์ธานี และ ทำเลใน จ.กระบี่
  • มาราสก้า (Marasca)
    เปิดให้บริการแล้ว 1 แห่ง – เขาใหญ่ นครราชสีมา
    อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1 แห่ง – เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี
หลับดี เสียมเรียบ
“ใช้เชนบริหารจากต่างประเทศ”
  • โรงแรมนารายณ์ (Narai) – อยู่ระหว่างการรีโนเวต วางเป้าเปิดบริการได้ในปี 2571 และคาดว่าจะมีการดึงเชนโรงแรมต่างประเทศเข้ามาบริหารแต่ยังใช้ชื่อโรงแรมนารายณ์เช่นเดิม
  • เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช รีสอร์ท – เชนโรงแรมในเครือแมริออท
  • Bankside Hotel, Autograph Collection ประเทศอังกฤษ – เชนโรงแรมในเครือแมริออท
  • 25Hours Hotel Paris Terminus Nord ประเทศฝรั่งเศส – เชนโรงแรมจากเยอรมนี
เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาว บีช รีสอร์ท

 

“ญี่ปุ่น” มาแรง เล็งเปิดเพิ่มใน “โตเกียว”

โทมัสกล่าวต่อว่า เป้าหมายเพิ่มเป็น 26 แห่งยังไม่ได้กำหนดชัดว่าจะไปในทำเลไหนบ้าง แต่กรอบคร่าวๆ ที่มองไว้จะเป็นการบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมไทย), ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

โดยเฉพาะ “ญี่ปุ่น” ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่กำลังเน้นในขณะนี้ หลังจากที่โรงแรมหลับดี โอซาก้า ฮอนมาจิ เพิ่งเปิดบริการในเดือนกันยายนนี้เอง แต่กลับได้อัตราเข้าพักแตะ 80% ภายใน 5 วันแรกที่เปิดตัว สะท้อนดีมานด์นักท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่สูงมาก

นารายณ์​ โรงแรม
หลับดี โอซาก้า ฮอนมาจิ

นารายณ์​ฯ จึงมองหาทำเลลงทุนต่อเนื่องในญี่ปุ่น เมืองต่อไปที่สนใจคือ “โตเกียว” เพราะเป็นเมืองหลวงจุดศูนย์รวมการเดินทางท่องเที่ยว โดยหวังว่าจะมีโอกาสเข้าลงทุนทั้งแบรนด์ “หลับดี” ที่เป็นบัดเจ็ทโฮเทล และแบรนด์ “มาราสก้า” เจาะตลาดแคชชวลลักชัวรี

โทมัสกล่าวว่า บริษัทพร้อมที่จะลงทุนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาจากที่ดินเปล่า (greenfield) หรือซื้อกิจการจากโรงแรมเดิม (brownfield) รวมถึงจะพิจารณาทั้งการใช้เชนโรงแรมของบริษัทเอง และการใช้เชนบริหารจากบริษัทอื่น ขึ้นอยู่กับทำเลและโครงการที่ได้มาว่าเหมาะสมกับแบรนด์ใด

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของนารายณ์​ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ปี 2566 โทมัสกล่าวว่าเป็นที่แน่นอนที่รายได้จะไม่สูงเท่าเดิมเพราะโรงแรมนารายณ์ สีลมอยู่ระหว่างก่อสร้างใหม่ และโรงแรมเลอ เมอริเดียน ภูเก็ต ไม้ขาวฯ ก็ปิดปรับปรุงมา 10 เดือน เตรียมเปิดให้บริการวันที่ 1 ตุลาคมนี้

แต่ในโรงแรมที่เปิดให้บริการปกติ ส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานดีโดยเฉพาะหลับดี ป่าตอง, หลับดี เกาะสมุย และหลับดี โอซาก้า ซึ่งทั้งหมดได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ขณะที่โรงแรมที่ยังไม่ฟื้นมากนักคือหลับดี เสียมเรียบ เนื่องจากปกติพึ่งพิงนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก และหลับดี มาคาติ เนื่องจากฟิลิปปินส์เปิดประเทศช้ากว่าทำให้การฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน