“Shein” ย้ายสำนักงานใหญ่ไป “สิงคโปร์” คาดเลี่ยงปัญหา “จีน” ห้ามเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ

Shein สิงคโปร์
Shein แพลตฟอร์มขายเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ ปักหลัก “สิงคโปร์” เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของบริษัท โดยคาดว่าเป็นเพราะบริษัทต้องการเดินหน้าแผนเปิด IPO ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ท่ามกลางความเข้มงวดของ “จีน” ที่กดดันให้บริษัทจีนถอนตัวออกจากตลาดหุ้นต่างชาติในช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมมีข่าวว่า “คริส ซู” ผู้ก่อตั้ง อาจเปลี่ยนสัญชาติเป็นสิงคโปร์ด้วยเพื่อเลี่ยงปัญหาเหล่านี้

Reuters รายงานว่า บริษัท Shein ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2008 ที่เมืองนานจิง และเติบโตจนกลายเป็นมาร์เก็ตเพลสระดับโลกด้านสินค้าแฟชั่น เพิ่งจะปิดบริษัท Nanjing Top Plus Information Technology Co Ltd ซึ่งเป็นบริษัทหลักในจีนไปเมื่อปีก่อน

การจัดการองค์กรของ Shein เป็นไปพร้อมกับแผนของบริษัทที่ต้องการจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และมีแหล่งข่าววงในระบุด้วยว่า “คริส ซู” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ อาจจะเปลี่ยนสัญชาติเป็นสิงคโปร์ เพื่อหลีกเลี่ยงกฎระเบียบของจีนที่กดดันการเข้า IPO ในต่างประเทศของบริษัทจีน

สำหรับการถ่ายโอนบริษัท ซูและกรรมการอีก 3 รายมีการจดทะเบียนบริษัท Roadget Business Pte ในสิงคโปร์ไว้ตั้งแต่ปี 2019 และตั้งแต่ปลายปี 2021 บริษัทนี้กลายมาเป็นบริษัทที่มีอำนาจทางกฎหมายในการบริหารเว็บไซต์ Shein ทั่วโลก และเว็บไซต์ทางการเองยังระบุให้ “สิงคโปร์” เป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท

รวมถึงบริษัท Roadget ยังเป็นเจ้าของทั้งบริษัท Guangzhou Shein International Import & Export Co Ltd และเจ้าของเครื่องหมายการค้า Shein

บริษัท Shein ถูกประเมินมูลค่าบริษัทไว้ถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท) เมื่อต้นปี 2021

บริษัทนี้ใช้ฐานผลิตในจีน ขายสินค้าเข้าสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย แต่ไม่มีการขายในจีนเลย ด้วยกลยุทธ์สินค้าราคาถูกมาก และใช้อินฟลูเอนเซอร์ผลักดัน ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จมากในกลุ่มผู้บริโภค “เจนซี” ในตลาดตะวันตก

สำหรับการย้ายสัญชาติของซูนั้น ปัจจุบันซูถือครองสิทธิพำนักถาวร (PR) ในสิงคโปร์แล้ว โดยยังไม่มีแหล่งข้อมูลยืนยันว่าซูได้รับ PR ตั้งแต่เมื่อใด และได้จากโครงการนักลงทุนระดับโลก (global investor programme) หรือไม่ แต่การได้ PR ในสิงคโปร์นั้น หากถือครองครบ 2 ปีก็จะสามารถยื่นขอสัญชาติได้

อย่างไรก็ตาม Shein และซูไม่สะดวกที่จะให้คำตอบเรื่องการขอสัญชาติ และให้คำตอบกับ Reuters เพียงว่า “ซูเป็นประชาชนจีนที่มีรากฐานยาวนานในประเทศจีน”

Shein เข้ามาทำตลาดในไทยเช่นกัน (Photo: IG@Shein_Thailand)

ด้านการขยายงานในสิงคโปร์ Shein ตั้งเป้าขยายตัวเป็น 4 เท่าภายในสิ้นปีนี้ โดยจะทำให้มีพนักงานเพิ่มเป็นประมาณ 200 คน ขณะนี้บริษัทเปิดรับสมัครงานทั้งเจ้าหน้าที่รัฐกิจสัมพันธ์, ทรัพยากรบุคคล, การตลาด และไอที

บริษัทนี้ทำรายได้ไปถึง 1 แสนล้านหยวน (ประมาณ 5.07 แสนล้านบาท) เมื่อปี 2021 และปัจจุบันมีพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก (ข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการ)

สิงคโปร์ ถือเป็นฐานสำคัญของบริษัทจีนที่ต้องการเลี่ยงสงครามการค้าและการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นฮับทางการเงินอยู่แล้ว และมีรากฐานประชากรจีนอยู่จำนวนมาก ล่าสุดทั้งบริษัท ByteDance และ Tencent Holdings ต่างก็ตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคขึ้นที่สิงคโปร์

ด้านแผนการเปิด IPO ที่นิวยอร์กของ Shein หากทำได้สำเร็จ จะถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่จากจีนแห่งแรกที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ นับตั้งแต่จีนเริ่มกดดันการจดทะเบียนนอกประเทศมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2021

ส่วนสาเหตุที่บริษัทจีนต้องการจะเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะบริษัทที่มีฐานตลาดหลักในต่างประเทศอยู่แล้ว ก็เป็นเพราะว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีนักลงทุนขาใหญ่อยู่จำนวนมากที่พร้อมลงทุน

Source