แอปฯ จีน Shein ขึ้นแท่นอี-คอมเมิร์ซ “ซื้อเสื้อผ้า” อันดับ 2 ในใจกลุ่มวัยรุ่นอเมริกัน

Shein อี-คอมเมิร์ซจากจีนเริ่มมาแรงในสหรัฐฯ ขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเสื้อผ้าออนไลน์อันดับ 2 ในใจผู้บริโภควัยรุ่นอเมริกัน รองจาก Amazon แม้จะยังห่างจากเบอร์ 1 อยู่มาก แต่สามารถแซงเจ้าถิ่นรายอื่นขึ้นมาได้เพราะ “ราคาถูก” และมีสินค้าใหม่เข้าวันละ 500 รายการ

Shein เป็นแพลตฟอร์มที่ก่อตั้งขึ้นในเมืองนานจิง ประเทศจีน เมื่่อปี 2008 ปัจจุบันกลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ยอดนิยมอันดับ 2 ในหมู่วัยรุ่นอเมริกัน เป็นรองจาก Amazon ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซที่ขายสินค้าทุกประเภท

โดยบริษัทบริการทางการเงิน Piper Sandler ทำการสำรวจล่าสุดในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นจำนวน 9,800 คนทั่วสหรัฐฯ มีค่าอายุเฉลี่ย 15.8 ปี ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามโดยเฉลี่ยมีรายได้ครอบครัว 67,500 เหรียญสหรัฐ ถือเป็นกลุ่มชนชั้นกลาง การสำรวจครั้งนี้พบว่า วัยรุ่นอเมริกัน 54% เลือก Amazon เป็นเบอร์ 1 ในใจเมื่อจะซื้อเสื้อผ้า ตามมาด้วยเบอร์ 2 คือ Shein ซึ่งมีผู้เลือก 5%

แม้ว่าจะยังห่างกับเจ้าตลาดอยู่มาก แต่น่าสนใจว่าแอปฯ จีนรายนี้เอาชนะแพลตฟอร์มแบรนด์อเมริกันรายอื่นที่อยู่มาก่อนได้ เช่น  Nike, PacSun, Urban Outfitters, Lululemon เป็นต้น นอกจากนี้ ถ้าวัดเฉพาะ “แบรนด์” เสื้อผ้าออนไลน์ Shein กลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์อันดับ 1 ที่วัยรุ่นอเมริกันเลือกสวมใส่ไปแล้ว

 

View this post on Instagram

 

A post shared by SHEIN.COM (@sheinofficial) on

Shein ใช้การทำตลาดผ่าน Instagram เป็นหลัก โดยมักจะรีโพสต์รูปจากอินฟลูเอนเซอร์ที่สวมใส่เสื้อผ้าของแบรนด์ ทำให้มีผู้ติดตามบัญชี Instagram กว่า 13.9 ล้านคน มีจุดขายหลักคือเสื้อผ้าที่ตามเทรนด์ได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมกับ “ราคาที่ถูกสุดๆ” ยกตัวอย่างเช่น เสื้อยืดผู้หญิงเริ่มต้นที่ 6 เหรียญ (ประมาณ 180 บาท) หรือเดรสผู้หญิงเริ่มต้นที่ 12 เหรียญ (ประมาณ 360 บาท)

คอนเซ็ปต์การทำธุรกิจของบริษัทนี้คือการขายสินค้าแบบฟาสต์แฟชั่นบนโลกออนไลน์เท่านั้น โดยไม่มีหน้าร้านเลย ยกเว้นตั้งร้านแบบ pop-up store เป็นครั้งคราวตามเมืองต่างๆ ความเป็นฟาสต์แฟชั่นทำให้ Shein จะเติมสินค้าใหม่ 500 รายการทุกวัน ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมหาศาลในการจับจ่ายไปใช้แต่งตัวตามเทรนด์ และยังทำราคาถูกสุดๆ เทียบกับเสื้อผ้าที่ขายในโลกตะวันตก จึงขายดีในหมู่วัยรุ่นรักการแต่งตัว

ตลาดต่างประเทศของ Shein ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ เท่านั้น แต่มีการส่งสินค้าไปทั่วโลก (ในไทยก็มีบริการจัดส่งเช่นกัน)
อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคที่บริษัทมุ่งเน้นคือ ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง โดยบริษัททำรายได้ทั่วโลกเมื่อปี 2019 ที่ 2,830 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลที่บริษัทแจ้งบนบัญชี WeChat ของตนเอง

สำหรับตลาดประเทศไทย เท่าที่สืบย้อนได้นั้นแอปฯ Shein เริ่มยิงโฆษณาทำตลาดตั้งแต่ปี 2559 ช่วงแรกมีปัญหาหลักเรื่องการจัดส่งที่ต้องรอส่งจากประเทศจีน และผู้บริโภคบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้เวลาส่งของนานหลายสัปดาห์ จนปีนี้เริ่มส่งรวดเร็วขึ้น แต่ยังติดปัญหาสินค้าคุณภาพ ‘ไม่ตรงปก’ เป็นบางชิ้น ทำให้อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ยังเป็นแอปฯ ที่น่าจับตามอง เพราะบัญชี Instagram เวอร์ชันไทยของ Shein มีผู้ติดตาม 4.62 แสนคน ถือว่าไม่น้อยเหมือนกัน!

Source