Photo : https://www.facebook.com/uniqlo
Fast Retailing Co. ต้นสังกัด Uniqlo ไม่สนใจใคร ประกาศเปิดร้าน Uniqlo แห่งใหม่ในย่านฮาราจูกุ กรุงโตเกียวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นการกลับมาเปิดร้านที่ศูนย์กลางแฟชั่นญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 8 ปี แถมยังสวนกระแสพิษ COVID-19 ที่เสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจฝืดและยอดขายปลีกตกต่ำ
นอกจากไทม์มิ่ง มุมมองการเปิดร้าน Uniqlo ครั้งนี้ยังน่าสนใจในเชิงภาพลักษณ์แบรนด์ เพราะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Uniqlo ย้ำว่าร้านสาขาฮาราจูกุนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของ Uniqlo และก่อนหน้านี้ Uniqlo เคยเปิดร้านที่ฮาราจูกุในปี 1998 ร้านดังกล่าวเป็นร้านแรกของ Uniqlo ในเขตเมืองที่คนพลุกพล่าน ซึ่งร้านนี้เองที่มีบทบาทในการเปิดตัวสินค้ารุ่นผ้าฟลีซ (fleece) จนฮิตติดตลาด
มากิ อาไกดะ ซีอีโอหญิงแกร่งของ Uniqlo เล่าให้สื่อญี่ปุ่นว่า เวลานั้นร้าน Uniqlo ในฮาราจูกุเทพื้นที่โชว์สินค้ากลุ่มผ้าฟลีซนุ่ม อุ่น สบายหลากหลายรูปแบบ ดึงดูดความสนใจของนักช้อป และเน้นโชว์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นไลน์ที่ทันสมัย เป็นผลให้แบรนด์ Uniqlo กลายเป็นชื่อที่เข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศและทุกวัยในครอบครัว
สำหรับปี 2020 เป้าหมายหลักของร้านที่ฮาราจูกุคือการลุยโปรโมตปรัชญาและวัฒนธรรมของแบรนด์ โดยบทบาทที่สำคัญที่สุดคือการโชว์สินค้าใหม่ล่าสุด
“แฟล็กชิปสโตร์” อาวุธกระตุ้นยอดในบ้านเกิด
การเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์ใหม่ของ Uniqlo นั้นถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 กำหนดการเปิดตัวเดิมคือเมษายน 2020 ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ตัวเลขยอดขายสาขาเดิมหรือ Same Store Sales ในตลาดญี่ปุ่นที่ Fast Retailing บันทึกว่าลดลง 56.5% วิกฤตินี้ Fast Retailing อยู่นิ่งไม่ได้เพราะเป็นตัวเลขที่เลวร้ายที่สุดในรอบปี ผลส่วนหนึ่งจากมาตรการสกัดโควิด-19 ที่ผู้คนร่วมใจอยู่บ้านขณะที่ธุรกิจต้องปิดกิจการชั่วคราว เพื่อปฏิบัติตามสถานะฉุกเฉินที่รัฐบาลประกาศ
ในเดือนพฤษภาคม ยอดขาย Fast Retailing ลดลง 18.1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2019
สื่อญี่ปุ่นมองว่า Fast Retailing เลือกวิธีตั้งร้านแฟล็กชิปสโตร์เพื่อกู้วิกฤติยอดขาย เพราะ Fast Retailing รู้ดีว่าความสำเร็จที่ Uniqlo เคยทำได้จากร้านฮาราจูกุในปี 1998 เป็นก้าวที่สำคัญหลังจากเปิดตัวแบรนด์ Uniqlo ตั้งแต่ปี 1984 จากร้านค้าแรกที่ฮิโรชิมา Uniqlo ใช้เวลามากกว่า 10 ปีจึงริเริ่มเปิดร้านในเขตเมือง และสามารถแจ้งเกิดได้สวยงามแม้จะปิดร้านที่ฮาราจูกุไปในปี 2012
ร้านใหม่ของ Uniqlo จะถูกตั้งในส่วนคอมเพล็กซ์ชื่อ “With Harajuku” ใกล้กับสถานีรถไฟฮาราจูกุสเตชั่น กินพื้นที่ราว 2,000 ตารางเมตร ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ทดสอบคอนเซ็ปต์ค้าปลีกแนวใหม่ที่เชื่อมเทคโนโลยีเสมือนจริงอย่าง VR และการจับต้องสินค้าจริงไว้ด้วยกัน
ความพิเศษของร้านคือการออกแบบพื้นที่ให้รับกับแอปพลิเคชัน StyleHint ที่ Uniqlo พัฒนาร่วมกับแบรนด์ในเครืออย่าง GU แอปนี้จะชวนให้ลูกค้าอัปโหลดภาพชุดโปรดของตัวเองขึ้นไป เพื่อค้นหาไอเดียเสื้อผ้าที่โดนใจ เมื่อได้ไอเดียแล้ว ระบบจะเชื่อมกับสินค้าที่ GU หรือ Uniqlo มีวางจำหน่าย
ในร้านใหม่จะมีแท็บเล็ตทัชสกรีนมากกว่า 240 เครื่อง เพื่อแสดงภาพที่ถูกอัปโหลดผ่าน StyleHint หากลูกค้าเดินผ่านแล้วถูกใจ ก็สามารถแตะหน้าจอเพื่อรับข้อมูลชั้นวางสินค้า แล้วทดลองสวมก่อนจะไปคลิกซื้อสินค้าที่ร้านออนไลน์ของ Uniqlo โดยชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดก็ได้
วิธีนี้จะทำให้ Uniqlo ใช้ร้านจริงต่อยอดธุรกิจออนไลน์ที่กำลังรุ่งได้ด้วย โดยในช่วงโควิด-19 ยักษ์ใหญ่อย่าง Uniqlo ต้องปิดร้านมากกว่า 311 จากทั้งหมด 813 สาขาทั่วโลก ทำให้ยอดขายจากร้านสาขาลดลงขณะที่ยอดขายออนไลน์เติบโต
สถานีต่อไป “กินซ่า”
นอกจากฮาราจูกุ Uniqlo วางแผนเปิดร้านใหม่ในย่านกินซ่าด้วย โดยร้านใน Ginza มีแผนเปิดทำการวันที่ 19 มิถุนายนนี้ เลื่อนจากกำหนดการเดิมคือวันที่ 15 พฤษภาคม
การเพิ่มร้านใหม่ 2 แห่งในเขตเมืองหลวงทำให้ Uniqlo มีการบ้านชิ้นใหญ่รออยู่ นั่นคือการต้องสร้างสมดุลระหว่างความต้องการทางธุรกิจ ท่ามกลางการบริโภคที่มีแนวโน้มลดลง และต้องพยายามลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไปด้วย
Fast Retailing จึงย้ำหนักหนาว่าร้าน Uniqlo ทั่วญี่ปุ่นมีนโยบายตรวจเข้มอุณหภูมิร่างกายของลูกค้าที่ทางเข้าร้าน และให้บริการเจลทำความสะอาดอยู่ไม่ขาด ขณะเดียวกันก็จำกัดจำนวนลูกค้าที่สามารถเข้าใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเบียดเสียดในร้าน.
ที่มา :
- https://asia.nikkei.com/Business/Retail/Uniqlo-returns-to-Tokyo-s-fashion-capital-Harajuku
- https://www.fashionsnap.com/article/2020-06-03/uniqlo-harajuku-guest/
- https://www.japantimes.co.jp/news/2020/06/03/business/corporate-business/uniqlo-new-store-tokyo-harakuju/#.XtwogC2ca9a