ยอมถอยอีกหนึ่ง! Didi แอปฯ เรียกรถ “จีน” เตรียม “ถอนหุ้น” จากตลาดนิวยอร์กตามคำสั่งรัฐ

Didi
รถขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับที่ Didi กำลังทดสอบ
Didi ประกาศเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า บริษัทเตรียม “ถอนหุ้น” ออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กในทันที และจะย้ายไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ตามคำสั่งรัฐบาลจีน

“หลังจากการศึกษาอย่างระมัดระวัง บริษัทตัดสินใจเริ่มกระบวนการถอนหุ้นออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทันที และเริ่มกระบวนการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง” บริษัทแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผ่านบัญชีทางการบน Weibo

ส่วนแถลงการณ์ภาษาอังกฤษ บริษัทระบุว่า คณะกรรมการบริษัทได้ให้ไฟเขียวให้บริษัททำการถอนหุ้นจากตลาดนิวยอร์กได้ โดยคณะกรรมการจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติในประเด็นนี้ต่อไป

การตัดสินใจของ Didi เกิดขึ้นหลังการเปิด IPO ในตลาดนิวยอร์กเพียง 5 เดือน โดยช่วงที่เปิด IPO หุ้นของ Didi ถือว่าเป็นหุ้นระดับบล็อกบลัสเตอร์ของตลาด สามารถระดมทุนไปถึง 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.49 แสนล้านบาท)

แต่หลังจากนั้น การตัดสินใจเปิด IPO กลายเป็นหายนะของบริษัท เพราะรัฐบาลจีนขู่ลงดาบ Didi หากไม่ยอมถอนหุ้นออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยจะแบนแอปพลิเคชัน Didi ออกจาก App Store ต่างๆ ที่มีให้บริการในประเทศจีน เพราะถือว่าแอปฯ ละเมิดกฎหมายด้านความปลอดภัยไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของประเทศ

(Photo by GettyImages) ืทว

เหตุการณ์นี้ทำให้ราคาหุ้นของ Didi ร่วงลงเรื่อยๆ จากราคาเปิด IPO ที่ 14 เหรียญต่อหุ้น ปัจจุบันราคาตกลงไปราวครึ่งหนึ่ง และทำให้มาร์เก็ตแคปของบริษัทสูญเสียไปเกือบ 30,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.12 ล้านล้านบาท)

การลงดาบตีกรอบบริษัทเทคโนโลยีจีนรายใหญ่เกิดขึ้นทั่วทั้งวงการ โดยการลงดาบ Didi นับเป็นการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ ของรัฐบาลจีน เป็นบทลงโทษสำหรับบริษัทจีนที่จะแหกคอกไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ

รัฐบาลจีนมองว่าการที่บิ๊กเทคคัมปะนีจีนไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศนั้น เป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ยกตัวอย่างในตลาดหุ้นนิวยอร์ก บริษัทที่เข้าไปจดทะเบียนจะต้องถูกตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบสัญชาติอเมริกัน ทำให้จีนไม่พอใจ

ทั้งนี้ ข่าวการถอนหุ้นของ Didi นับว่าเป็น ‘ทอล์กออฟเดอะทาวน์’ ของเมืองจีนเช่นกัน โดยเรื่องนี้ขึ้นเป็นเทรนด์บนโซเชียลมีเดีย Weibo เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และโพสต์ที่เกี่ยวกับการถอนหุ้นของบริษัทมียอดชมสูงมากกว่า 120 ล้านครั้ง

เรื่องนี้ส่งผลสะเทือนถึงผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง Softbank ที่เข้าไปถือหุ้น Didi ผ่าน Vision Fund ด้วย เมื่อวันศุกร์นั้นราคาหุ้นของ Softbank ที่ตลาดหุ้นโตเกียวตกลง 0.7% และถ้านับตั้งแต่การเปิดข่าวถอนหุ้นของ Didi โดยสำนักข่าว Bloomberg เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า หุ้น Softbank ราคาตกไปแล้ว 5%

 

อาจต้องถอนหุ้นกันทั้งหมด

ไม่ใช่แค่ Didi ที่ถูกจัดการ บริษัทเทคจีนรายใหญ่ที่ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยอมไปจดทะเบียนแบบ dual-listing ในตลาดหุ้นฮ่องกงแล้ว เช่น Alibaba, JD.com และ Baidu

อารอน คอสเตลโล หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียที่ Cambridge Associates ให้ความเห็นกับ CNBC ว่า บริษัทวิเคราะห์ว่าเทคคัมปะนีจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะทยอยย้ายไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงหรือจีนแผ่นดินใหญ่เกือบทั้งหมด

“นี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนของรัฐบาลจีน เพราะพวกเขาไม่สบายใจอีกต่อไปกับการใช้อำนาจกฎหมายกำกับเทคคัมปะนีจีน เพราะการใช้กฎเกณฑ์ของสหรัฐฯ มากำหนดพวกเขา และเพราะประเด็นด้านความปลอดภัยของดาต้าด้วย” คอสเตลโลกล่าว

บริษัทจีนที่ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีมากกว่า 200 บริษัท และหลายบริษัททำธุรกิจด้านเทคโนโลยี นอกจากชื่อที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีบริษัทเช่น บริษัทเกม NetEase, บริษัทอีคอมเมิร์ซ Pinduoduo, บริษัทลูกด้านสตรีมมิ่งดนตรี Tencent Music, บริษัทสตรีมมิ่งวิดีโอ iQiyi ฯลฯ

ที่มา: CNN, CNBC