ความฝันอยากจัดรายการจะเป็นจริงแล้ว เพราะ Amazon เปิดตัวแอปฯ “Amp” จัดซื้อลิขสิทธิ์เพลงหลายสิบล้านเพลง ทั้งจาก 3 ค่ายเพลงใหญ่และค่ายเพลงอินดี้ ให้ครีเอเตอร์ที่อยากเป็น “ดีเจ” สามารถสตรีมเปิดเพลงได้อย่างถูกต้อง และมีฟังก์ชันเหมือนรายการวิทยุทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทอล์กคุยกับผู้ฟัง ผู้ฟังแชทเข้ามาคุย หรือโทรฯ เข้ามาเล่นเกมกันก็ได้
ในที่สุด Amazon ก็เปิดตัวแอปพลิเคชัน “Amp” แล้ว หลังจากมีข่าวลือมานานว่าบริษัทกำลังซุ่มพัฒนาแอปฯ เสียงที่จะแข่งกับ Clubhouse แต่แอปฯ ใหม่นี้ไม่ได้จะเหมือนกับ Clubhouse เสียทีเดียว เพราะจะเน้นการเปิดเพลงฟังมากกว่าการพูดคุยกัน
สมาชิกที่สมัครเข้ามาจะมีสิทธิเป็น “โฮสต์” จัดรายการสดของตัวเอง ที่สำคัญคือสามารถสตรีมเพลงจากคลังเพลง “หลายสิบล้านรายการ” ที่บริษัทซื้อลิขสิทธิ์มาจากค่ายเพลงดัง 3 ค่าย รวมถึงเพลงอีกหลายรายการยาวเหยียดจากค่ายเพลงอินดี้ต่างๆ
เป้าหมายก็คือสมาชิกจะสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น “ดีเจ” วิทยุกันได้ทุกคน สามารถจัดรายการเพลงเอง คุยกับผู้ฟัง แชท หรือรับสายโทรฯ เข้าจากผู้ฟังได้
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งโฮสต์และผู้ฟังไม่ต้องสมัครเสียค่าบริการใดๆ เพื่อมาใช้งาน ใครๆ ก็เข้ามาฟังเพลงยาวเต็มเพลงได้ แค่สมัครสมาชิกแอปฯ Amp ซึ่งบริการฟรีอยู่ขณะนี้
ถือเป็นแอปฯ ที่ฉีกแนวจากคู่แข่งในขณะนี้ เพราะแอปฯ หรือฟังก์ชันพูดคุยด้วยเสียงอื่นๆ เช่น Clubhouse, Twitter Spaces หรือฟังก์ชันที่ Facebook พัฒนาอยู่ ก็ไม่ได้มีลิขสิทธิ์เพลงให้ใช้สตรีมได้เหมือนกับ Amp ของ Amazon ทำให้แอปฯ มีความแตกต่างว่าจะมาในสายดีเจวิทยุ และลักษณะรายการเหมือนตีกรอบให้ว่าจะเป็นพิธีกรรายการคุยกับแขกรับเชิญหรือผู้ฟัง
ช่วงแรกยังไม่มีระบบสร้างรายได้
ในด้านการตลาด Amazon ทุ่มสุดตัวด้วยการเชิญเซเลปมาเป็นโฮสต์จัดรายการในช่วงเปิดตัว เช่น Nicki Minaj, Pusha T, Tinashe, Travis Barker, Lil Yachty, Big Boi
ส่วนการสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์นั้น ในระยะแรกจะยังไม่มีฟังก์ชันนี้ (ยกเว้นกลุ่มเซเลปที่เชิญมา ซึ่งบริษัทจ่ายโดยตรงเพื่อโปรโมตแอปฯ) แต่ในระยะยาวนั้น รีเบคก้า ซิลเวอร์สไตน์ โฆษกของ Amp เปิดเผยกับสำนักข่าว The Verge ว่า Amazon คาดหวังว่าจะเพิ่มฟีเจอร์สร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์ในอนาคต
นอกจากนี้ Amazon ยังกล่าวถึงประเด็นที่บริษัทมองว่าสำคัญ แต่แอปฯ อื่นมักจะไม่พูดถึงมากนัก (หรืออาจจะไม่ได้คิดถึง) คือบริการ Amp ได้ออก “ระเบียบชุมชนที่ครอบคลุม” มาตั้งแต่ต้น และมี “ทีมแอดมินดูแล 24/7” เพื่อคอยตรวจสอบรายงานการละเมิดระเบียบ
Amp ให้บริการวันแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2022 แต่ยังเป็นรุ่นเบตาอยู่ และยังให้บริการบน iOS เท่านั้น (Amazon ยังไม่ตอบว่าจะมีบริการบน Android และบนเว็บไซต์ตามมาหรือไม่) ทันทีที่เปิดบริการก็มี waiting list รอต่อคิวเข้าใช้กันแล้ว
อีกทั้งขณะนี้ยังเปิดบริการเฉพาะในสหรัฐฯ ก่อน ซึ่งการขยายในประเทศอื่นๆ น่าจะมีความซับซ้อนด้วยเรื่องลิขสิทธิ์เพลง ทำให้การเปิดตัวทั่วโลกจะยุ่งยาก และน่าจะใช้การลงทุนสูง แต่หากมองในมุมบวก ความยากและการลงทุนน่าจะทำให้คู่แข่งเร่งทำแอปฯ เลียนแบบได้ช้า