เเชร์ได้เเต่ต้องจ่าย Netflix ทดลอง ‘เก็บค่าบริการเพิ่ม’ กับผู้ใช้บัญชีที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน

ตามข้อกำหนดในการให้บริการของ Netflix ระบุว่าบัญชีของลูกค้านั้นไม่สามารถแชร์กับบุคคลภายนอกครัวเรือนของคุณได้

แต่หลังจากยอมมองข้ามพฤติกรรมการแบ่งปันรหัสผ่านของผู้ใช้งานมานานหลายปี ตอนนี้บริษัทเริ่มทดลองสุ่มตรวจผู้ใช้งาน โดยเเจ้งให้ป้อนข้อมูลบางอย่างเพื่อยืนยันตัวตน กระตุ้นให้ผู้ที่เเอบมาใช้ฟรีต้องชำระเงินสำหรับบัญชีของตนเอง

เร็วๆ นี้ Netflix แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งเบอร์หนึ่งของโลก จะเริ่มการทดสอบเพื่อให้ผู้ถือบัญชีหลัก ชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม สำหรับผู้ใช้ภายนอกครัวเรือน นับเป็นความพยายามครั้งใหม่ของบริษัทในการแก้ไขปัญหาการแชร์รหัสผ่านโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยจะเริ่มใช้ระบบทดสอบใน 3 ประเทศ ได้เเก่ ชิลี, คอสตาริกา และ เปรู ซึ่ง Netflix ยืนยันว่ามีความยินดีที่จะให้มีการแบ่งปันบัญชีผู้ใช้ในกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ร่วมบ้านกันอย่างง่ายดายเเละปลอดภัย ผ่านการ ‘จ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อย’ 

Chengyi Long ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของ Netflix เผยว่า การทดสอบใหม่นี้จะเปิดตัวอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าใน 3 ประเทศดังกล่าวก่อน เเละต่อไปอาจจะขยายหรือไม่ขยายไปเกินตลาดเหล่านี้ก็ได้

เราทำให้คนที่อยู่ด้วยกันแชร์บัญชี Netflix ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น โปรไฟล์แยกและสตรีมหลายรายการในแผนมาตรฐานและพรีเมียมของเรา

สำหรับฟังก์ชันใหม่ที่จะนำเสนอกับสมาชิกระดับมาตรฐานและพรีเมียม จะมีการเปิดให้เพิ่มบัญชีใช้งานร่วมจาก ‘บุคคลนอกบ้าน’ ได้สูงสุด 2 ราย โดยแต่ละรายสามารถแยกโปรไฟล์ ตั้งค่าการแนะนำรายการต่างๆ และตั้งรหัสผ่านของตัวเองได้ โดยจ่ายค่าบริการส่วนที่เพิ่มมาในอัตราที่ถูกกว่าการแยกไปสมัครสมาชิกใหม่

ทั้งนี้ Netflix มองว่า การแชร์บัญชีใช้งานระหว่างบุคคลนอกครอบครัว ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของบริษัทในการผลิตภาพยนตร์และรายการที่มีคุณภาพเพื่อสมาชิก

ปัจจุบัน Netflix มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 222 ล้านราย และคาดว่าในไตรมาสแรกของปี 2022 นี้ จะมีสมาชิกเพิ่มอีก 2.5 ล้านราย ตัวเลขดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าช่วงไตรมาส 1 ปี 2021 ที่ผู้ใช้ใหม่เติบโตถึง 3.98 ล้านราย ซึ่งแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลงนี้ทำให้มูลค่าหุ้นของ Netflix ลดลงอย่างมาก หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2021 ปิดที่ 7.71 พันล้านดอลลาร์ เมื่อปลายเดือนม..ที่ผ่านมา

 

ที่มา : Variety , macrumors