หลังจากจุดติดกับรายการ Thailand’s Got Talent ไปแล้ว ช่อง 3 ก็ไฟเขียวรายการประเภทซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมาผลิตและออกอากาศ(International Format TV) มาอีก 1 รายการ คือ Take Me Out จากเจ้าของลิขสิทธิ์เดียวกันคือ บริษัทฟรีแมนเทิล มีเดีย อังกฤษ โดยหวังจุดขายเรื่องกระแสคนโสดเลือกคู่ มาทำให้เวลาเฉา ๆ ของบ่ายวันเสาร์ เวลา 14.00-14.45 น. กลายเป็นเวลาทำเงินขึ้นมา โดยมีบริษัทครีเอทิส มีเดียในเครือทีวีธันเดอร์รับผลิต
“ประวิทย์ มาลีนนท์” กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร บริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนทเม้นต์ จำกัด ผู้บริหารช่อง 3 บอกว่าเดิมช่วงบ่ายวันเสาร์รายการไม่ลงตัวมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย มั่นใจว่า Take Me Out Thailand จะถูกใจผู้ชมเพราะในหลายประเทศรายการนี้ก็ประสบความสำเร็จมาแล้ว และแน่นอนว่าจากการต้นทุนการผลิตที่สูงเพื่อให้ได้มาตรฐานสากล ถูกรสนิยมคนไทย เรทติ้งจะดีและรายได้ก็สูงตามมา
“พิรัฐ เย็นสุดใจ” กรรมการผู้จัดการ ครีเอทิส มีเดีย บอกว่ารายการนี้มีต้นทุนผลิตและค่าลิขสิทธิ์รวม 50-60 ล้านบาท ออกอากาศนาน 6 เดือน สปอนเซอร์ที่ตอบตกลงแล้วมี 4 ราย คือ รถยนต์ฟอร์ด ธนาคารทหารไทย อะมิโน พลัส และน้ำดื่มตราช้าง ในแง่ผู้ผลิตขณะนี้ถือว่าคุ้มกับการลงทุน ส่วนแบรนด์ก็ได้สื่อในสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะนอกจากทีวีซีสปอตแล้ว ยังแผนเรื่องการ tie-in ในเนื้อหารายการ โดยมีกรุ๊ปเอ็ม อีเอสพีเป็นพันธมิตรจัดหาสปอนเซอร์
สำหรับรูปแบบรายการจะมีชายและหญิง อายุ 20-40 ปี ร่วมรายการโดยให้หญิง 30 คน เลือกชอบหรือไม่ชอบชายที่เป็นแขกรับเชิญ หากชอบก็เปิดไฟ ถ้าไม่ชอบก็ปิดไฟ โดยดูจากความประทับใจแรกที่เห็น และเรื่องราว หรือความสามารถพิเศษของชายหนุ่ม หากสุดท้ายผู้เลือกเหลือมากกว่า ชายหนุ่มก็จะเป็นเลือกฝ่ายหญิง
Take Me Out เป็นรูปแบบรายการที่เพิ่งเริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2553 ที่อังกฤษ เป็นรายการที่ได้รับความนิยมเพราะสะท้อนมุมมองการใช้ชีวิตของหนุ่มสาว เหตุผลในการเลือกคู่ และแผยแพร่ไปในยุโรปและเอเชีย โดยไทยเป็นประเทศที่ 17 ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตและออกอากาศ ภายใต้ชื่อรายการ “เทค มี เอาท์ ไทยแลนด์ :ถูกชะตา ท้าหัวใจ” เริ่ม 2 กรกฎาคม 2554 มี “น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสด์” และ”กาละแมร์ พัชรศรี”เป็นพิธีกร