แม้ว่าตลาดทีวีไม่ได้เติบโตหวือหวาเหมือนในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนจาก ทีวีจอตู้ มาสู่ จอแบน หรือการเปลี่ยนจากยุคอนาล็อก มาสู่ ทีวีดิจิทัล แต่ตลาดทีวีก็ไม่ได้หายไปไหน คนยังคงดูทีวี เพียงแค่เปลี่ยนจากดูช่องปกติ เป็นการดูแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแทน
คนไทยเปลี่ยนทีวีเร็วขึ้น ต้องดีขึ้น และใหญ่ขึ้น
ชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เล่าว่า “คนชอบคิดว่าตลาดทีวีจะหดตัวลง เพราะคนไม่ค่อยดูทีวี แต่จริง ๆ แล้วตลาดมันไม่ได้หายไปไหน” โดยปีที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดจะทรงตัว มีมูลค่าประมาณ 22,000 ล้านบาท แต่ปีนี้ (2025) คาดว่าตลาดจะเติบโตประมาณ +2% ทั้งในด้านมูลค่าตลาด และจำนวนยูนิต
ปัจจัยการเติบโตมาจาก การซื้อทดแทนเครื่องเก่า โดยจากการสำรวจพบว่า คนไทยเปลี่ยนทีวีถี่ขึ้น จากอดีตเฉลี่ยที่ 5-6 ปี เหลือ 4 ปี/เครื่อง เนื่องจากต้องอัปเกรดทีวีเพื่อให้รองรับแอปพลิเคชันที่อัปเดตใหม่ ๆ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแต่ละครั้งจะซื้อ จอใหญ่ขึ้น จนปัจจุบันไซส์เฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ 55 นิ้ว และที่เติบโตไซส์คือ 75 นิ้ว
“ทีวียังเป็นสินค้าจำเป็น คนยังดูทีวี แต่พฤติกรรมเปลี่ยนไป คือดูแอปฯ สตรีมมิ่ง ดังนั้น เขาเปลี่ยนทีวีที่มีการอัปเดตใหม่ ๆ ซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ และคนดูทีวี เขาไม่ซื้อทีวีเล็กลง มีแต่จะซื้อที่ใหญ่ขึ้น”
ชู AI เพิ่มแวร์ลู่สินค้า ไม่แข่งราคา
ชวพจน์ ยอมรับว่า นับตั้งแต่แบรนด์จีนเข้ามา ทำให้ภาพการแข่งเปลี่ยนไป จากอดีตที่มีแบรนด์เกาหลี-ญี่ปุ่น จะไม่ได้แข่งกันที่ ราคา ดังนั้น ซัมซุงต้องมีนวัตกรรมที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึก คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เพราะไม่สามารถทำราคาลงไปแข่งได้ ดังนั้น ซัมซุงต้องให้นวัตกรรมที่ล้ำกว่าคู่แข่งเสมอ เช่น เป็นแบรนด์แรกที่พูดถึง AI
โดยปีนี้ AI จะไม่ได้อยู่ในสินค้าพรีเมียมเท่านั้น แต่ ทีวีราคาหมื่นกลาง ๆ ก็มี AI เช่น QLED Series ราคาเริ่มต้น 13,990 บาท ก็มีเทคโนโลยี AI อีกทั้งได้เพิ่ม Samsung Finance Plus ในกลุ่มสินค้าทีวี จากเดิมให้บริการเฉพาะในมือถือ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้ลูกค้า
“ความท้าทายของปีนี้ คือสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเราแก้ไขอะไรไม่ได้ ดังนั้น เราเพิ่มโปรแกรมทางการเงิน เพื่อช่วยให้กลุ่มแมสเข้าถึงสินค้าเราได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันสินค้าราคา 15,000-20,000 บาท เป็นกลุ่มที่มีการใช้ Samsung Finance Plus มากที่สุด”
วางเป้าโต 6% เหนือตลาด
ในปีนี้ ซัมซุงตั้งเป้าเติบ +6% ทั้งในด้านมูลค่าและจำนวนยูนิต โดยมองว่าเซกเมนต์พรีเมียม และจอใหญ่ (75 นิ้วขึ้นไป) เป็น 2 กลุ่มที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโต
“ราคาเฉลี่ยตลาดอยู่ที่ 10,000 บาท แต่ซัมซุงเฉลี่ยที่ 15,000 บาท แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยอมจ่ายแพงขึ้น หากรู้สึกว่าคุณภาพและราคาเหมาะสมกัน รวมถึงบริการหลังการขายที่เขาจะได้รับ ดังนั้น เรามั่นใจว่าจะโตมากกว่าตลาด”
สำหรับฟีเจอร์ AI เด่น ๆ ในปีนี้ อาทิ 8K AI Upscaling Pro ที่ช่วยอัปสเกลคอนเทนต์จาก 4K ให้ใกล้เคียงระดับ 8K, AI Customization Mode: ตรวจจับประเภทของคอนเทนต์ พร้อมปรับค่าภาพให้เหมาะสมกับความชอบของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ และ Pet Care & Baby Care: ฟีเจอร์ดูแลสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็กผ่านเซนเซอร์ในตัวทีวี โดยวิเคราะห์เสียงเห่า หรือเสียงร้องไห้ พร้อมส่งแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ไปยังหน้าจอทีวี สมาร์ทโฟน หรือมอนิเตอร์ทันที เป็นต้น