ในที่สุด ตัน ภาสกรนที ก็หวนกลับคืนสู่ตลาดชาเขียวอีกครั้ง ประกาศขึ้นเป็น TOP 3 ของตลาด และเป็นการพิสูจน์ฝีมือกับเจ้าตลาดโออิชิ แบรนด์ที่ปั้นมากับมือ
รอคอยและคาดเดากันมานานว่าสัญญลักษณ์ชาเขียวอย่างตัน โออิชิ จะกลับคืนมาในตลาดชาเขียวเมื่อใด หลังจากที่เดินออกจากกลุ่มไทยเบฟ ฯ ไม่ถึง 2 ปี พร้อม ๆ กับออกสินค้าชารถผลไม้ ซึ่งยังไม่เปรี้ยง หรือเป็นที่กล่าวถึงมากเท่าไหร่นัก
ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไม่ตัน จำกัด บอกว่า บริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 150 ล้านบาท บุกตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในแบรนด์ ‘อิชิตัน’ โดยมีจุดขายเป็นชาเขียว ออร์แกนิค กรีนที 100% เพื่อรับกับกระแสสุขภาพ และเทรนด์ออร์แกนิค
เขายืนยันว่า ไม่ได้มีสัญญาใจ หรือสัญญาใดๆกับทางไทยเบฟฯ ว่าจะไม่ทำธุรกิจชาเขียวพร้อมดื่ม และยอมรับว่า การทำธุรกิจทุกวันนี้ คือ การแข่งขัน และบริษัทวางเป้าหมายภายใน 3 ปี จะขึ้นมาเป็นท็อปทรีของตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่ง 30% ด้วย
สิ่งที่ตันทำให้ชาเขียวตัวใหม่ต่างจากคู่แข่งในตลาดก็คือ เปิดตัวขนาดแพคเกจใหม่ที่มีความจุขนาด 420 มล. ขายในราคา 16 บาท รวมถึงออกแบบแพกเกจจิ้งที่ดูทันสมัย และวางจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งมีบริษัทดีเคเอสเอชเป็นผู้กระจายสินค้า และคาดว่า 1-2 ปี จะครอบคลุมทุกช่องทาง
“การเข้ามาทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม อิชิตัน ผมไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะเป็นเบอร์ 1 ในตลาด แต่ต้องการเป็นอันดับ 1 ในด้านของคุณภาพของผลิตชาที่ดีสู่ผู้บริโภค”
ชาเขียว อิชิตันมี 3 รสชาติ คือ ออริจินัล น้ำผึ้งผสมมะนาว และเก๊กฮวย และตั้งเป้ารายได้ 1,700 ล้านบาท รายได้จากดับเบิ้ลดริ้งค์ 500 ล้านบาท และ 200 ล้านบาทเป็นธุรกิจอาหาร ส่วนชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตัน 1,000 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่ง 10% อันดับ 4 ของตลาด
ปัจจุบันตลาดชาพร้อมดื่มมีมูลค่าเกือบ 8,000 ล้านบาท ชาเขียวเป็นตลาดใหญ่ที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 60% และโออิชิเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 60%