‘อินเดีย’ ซุ่มเงียบนำเข้า ‘น้ำมันราคาถูก’ จาก ‘รัสเซีย’ คาด ‘จีน’ ลูกค้าคนต่อไป

แม้ว่าราคาน้ำมันจะมีความผันผวนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแกว่งไปมาระหว่างกำไรและขาดทุน แต่ก็ยังสูงขึ้นประมาณ 80% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการคว่ำบาตรรัสเซียจากการรุนรานยูเครน แต่ที่น่านสนใจคือ อินเดีย เป็นหนึ่งในประเทศที่เลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และสามารถนำเข้า ‘น้ำมันราคาพิเศษ’

ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อย่างอินเดียและจีน กำลังเผชิญกับราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ซึ่งพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์ชั้นนำด้านน้ำมันของ Kpler กล่าวว่า นับตั้งแต่เดือนมีนาคม มีการบรรทุกสินค้าน้ำมันจากรัสเซียประมาณ 6 ล้านบาร์เรล โดยมุ่งหน้าไปยังอินเดีย และดูเหมือนว่าอินเดียจะเข้าซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียมากขึ้นอีก จากเดิมที่ จีน เป็นผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียที่ใหญ่ที่สุดรายเดียวอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่า จีนก็จะได้ น้ำมันราคาพิเศษ จากรัสเซียด้วยเช่นกัน

การขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียไปยังอินเดียนั้นไม่บ่อย โดยในปี 2021 มีการส่งมอบทั้งหมดเพียง 12 ล้านบาร์เรล และไม่เห็นการขนส่งน้ำมันใด ๆ จากรัสเซียไปอินเดียตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ที่ผ่านมา อินเดียนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียในสัดส่วนเล็กน้อยระหว่าง 2-5% ต่อปี เพราะส่วนใหญ่นำเข้าน้ำมันดิบจากอิรัก ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไนจีเรีย แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกำหนดราคาที่สูงขึ้น

“นี่คือประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณทั้งหมดที่ปล่อยออกมาในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมาก”

นักวิเคราะห์และรายงานของสื่อบางฉบับระบุว่า อินเดียสามารถซื้อน้ำมันจากรัสเซียได้ในราคา ลดประมาณ 20% จากราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งปัจจุบัน ราคาน้ำมันอยู่ที่ราว 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และยุโรปทำให้เกิดช่องว่างในตลาด โดยที่รัสเซียพบว่ามีน้ำมันดิบส่วนเกินที่ไม่สามารถขายได้ และการที่จีนและอินเดียกว้านซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย อาจหมายถึงราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นในอนาคต

Oil pump cold winter and snow. Back light, white cloudy and blue sky background, sunlight

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) ระบุว่า รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ตอนนี้มีน้ำมันส่วนเกินประมาณ 3 ล้านบาร์เรล โดยรัสเซีย ถือเป็น ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ และเป็น ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดไปยังตลาดโลก และเป็น ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากซาอุดีอาระเบีย

แต่หลังจากที่ถูกคว่ำบาตร น้ำมันดิบอูราลจากรัสเซียถูกเสนอให้ลดราคาเป็นประวัติการณ์ แต่เพราะมีการนำเข้าน้ำมันอย่างจำกัด เนื่องจากผู้นำเข้าน้ำมันจากเอเชียส่วนใหญ่ยึดติดกับซัพพลายเออร์เดิม ๆ ในตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และแอฟริกา

“อินเดียเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของโลก และตอนนี้ พวกเขากำลังชั่งน้ำหนักทางเลือกในการทำงานกับเพื่อนเก่า”

จนถึงขณะนี้ อินเดียกับจีนไม่ได้ออกมาประณามรัสเซีย โดยอินเดียกับรัสเซีย ทั้งสองประเทศมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน รัสเซียสนับสนุนอินเดียในด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารและการป้องกันประเทศมากถึง 60% ของความต้องการของประเทศในเอเชีย นอกจากนี้ รัสเซียยังสนับสนุนอินเดียในประเด็นสำคัญ ๆ เช่น ข้อพิพาทกับจีนและปากีสถานที่อยู่รอบดินแดนแคชเมียร์

ในส่วนของ จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เหล่านักวิเคราะห์ก็คาดว่า จีนจะเลือกซื้อน้ำมันลดราคาจากรัสเซียด้วย จากเดิมที่ซื้อน้ำมันดิบรัสเซียเฉลี่ย 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2564 ตามข้อมูลของ IEA ปัญหาคือ การซื้อน้ำมันรัสเซียที่เพิ่มขึ้น อาจกระทบราคาน้ำมันโลก

“จีนยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แต่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มการซื้อหากสามารถจ่ายเป็นหยวนและได้ส่วนลด โดยพื้นฐานแล้ว รัสเซียถูกกดดันเพราะประสบปัญหาในการขายน้ำมัน และจีนต้องการน้ำมันที่มากจริง ๆ ราคาในช่วง 90 ดอลลาร์ยังถือว่าสูงเกินไปสำหรับจีน”

Source