‘แอดไวซ์’ สิงห์ไอทีภูธรขอผงาดเข้ากรุงด้วยแมตช์ ‘แดงเดือด’ หวังยกระดับแบรนด์ก่อน IPO

จากคำถามง่ายของลูกสาวที่ว่า “ทำไมที่เซ็นทรัลเวิลด์มี Banana มี J.I.B แต่ไม่เคยเห็น Advice ประกอบการเป้าหมายที่จะพาบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด จึงต้องพยายามดัน แอดไวซ์ ให้เป็นที่รู้จักในกรุงเทพฯ ให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม

จากการรวมกันของร้านไอทีสู่แบรนด์แอดไวซ์

จุดเริ่มต้นของ แอดไวซ์ ไอที (Advice IT) ค้าปลีกสินค้าไอทีชั้นนำของประเทศไทยที่มีฉายาว่า สิงห์ภูธร นั้นเกิดขึ้นจากการรวมตัวของร้านค้าไอทีทั่วประเทศ ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินการที่เรียกว่า แอดไวซ์ ดิสทริบิวชั่น (Advice Distributions) โดยการนำเอาร้านค้าไอทีที่เป็นลูกค้าขายส่งมาสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงระบบหลังบ้านเข้าด้วยกัน โดยในอดีตเน้นการขายส่งเป็นหลักโดยมีสัดส่วนถึง 88% แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 33% ที่เหลือเป็นค้าปลีก

ปัจจุบัน แอดไวซ์มีสาขาที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศถึง 350 สาขา แต่มีสาขาในกรุงเทพฯ ราว 10 กว่าสาขาเท่านั้น และจากเป้าหมายที่จะ IPO หรือ จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ การเป็นที่รู้จักและภาพลักษณ์ที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นแอดไวซ์ต้องเร่งเดินหน้า เนื่องจากพิษโควิดทำให้เป้าหมายที่ต้อง IPO ให้แล้วเสร็จในปี 64 ต้องล่าช้าไป

ฉีกขนบค้าปลีกไอที

ปกติแล้วธุรกิจค้าปลีกไอทีส่วนใหญ่จะใช้โปรโมชันหรือทำโฆษณาออนไลน์เป็นหลัก แต่ยากที่จะมาลงทุนทำ ภาพยนตร์โฆษณา แต่แอดไวซ์ถือเป็นผู้เล่นไม่กี่รายที่ทำ ย้อนไปในปี 2559 แอดไวซ์ได้ภาพยนตร์โฆษณาออกมา 2 เรื่อง “เพราะเพื่อนบ้านคือกล้องวงจรที่ดีที่สุด” และเรื่อง “12 ปีเป็นอายุที่เหมาะสมเด็กในการเล่น แท็บเล็ต”  ซึ่งทั้ง 2 เรื่องก็เกิดได้รับการพูดถึงอย่างมาก

จนมาปี 2021 ที่ผ่านมา แอดไวซ์ได้ทำภาพยนตร์โฆษณาอีกครั้ง โดยเน้นเรื่อง “เราได้อะไรจากการฟัง?” โฆษณาดังกล่าวได้แจ้งเกิด ป้าอ้วนขายข้าวหลาม ที่เสมือนเป็นตัวแทนคนหาเช้ากินค่ำที่ไม่เข้าใจเรื่องสินค้าไอที และด้วยฝีปากแบบแม่ค้าที่พูดตรง ๆ ห้วน ๆ และทำให้ป้าอ้วนเป็นที่ถูกใจใครหลาย ๆ คน จากนั้น แอดไวซ์ก็จับ ป้าอ้วน มาต่อยอดทำคลิปรีวิวคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีจนเกิดเป็นไวรัลอีกรอบ

The Match จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย?

แน่นอนว่าจุดประสงค์ของภาพยนตร์โฆษณาตัวล่าสุดของแอดไวซ์ก็คือ การสร้างภาพแบรนด์ที่ดีขึ้น เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่า แอดไวซ์ต้องการที่จะทำ IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อเป็นบริษัทมหาชน และเมื่อมีความแข็งแรงมากพอแล้วในต่างจังหวัด ดังนั้น กรุงเทพฯ จึงเป็นหมุดหมายที่สำคัญมาก และการจะเจาะคนกรุงนั้น แอดไวซ์ได้พุ่งเป้าไปที่ Gen Z

ที่ผ่านมา แอดไวซ์ใช้ อีสปอร์ต มาเป็นกลยุทธ์ในการทำตลาดตั้งแต่ปี 2019 เพื่อเจาะกลุ่ม Gen Z อาทิ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการจัด “Esports Thailand Championship presented by Advice” การจัดกิจกรรม “Advice E-Sports 2019 Episode 2” ใน 18 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ แต่ก็ไม่ได้เจาะจงไปเฉพาะเจาะจงไปที่ Gen Z คนกรุงนัก

การที่ใช้อีสปอร์ตเป็นกลยุทธ์ในการตลาดไม่ได้มีเพียงเพื่อสร้างการรับรู้หรือขยายตลาดไปยัง Gen Z เท่านั้น แต่เพราะปัญหาซัพพลายเชนที่มีไม่พอ แถมสินค้าใหม่ ๆ ก็เริ่มมีราคาสูงขึ้น การที่เจาะกลุ่มคนเล่นเกมก็จะช่วยให้ขายสินค้าได้ แพงขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้จ่ายหนักกว่าคนต่างจังหวัด

ด้วยความที่การทำ IPO ของบริษัทไม่ได้เป็นไปตามแผน ประกอบกับที่ปีนี้มีการจัดศึก แดงเดือด ของ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ยูในเต็ด ในประเทศไทย หรือ The Match Bangkok Century Cup 2022 ทำให้ จักรกฤช สาวกหงส์แดงที่มีเลือดของ The Kop เต็มเปี่ยมเห็นโอกาสที่จะใช้ สปอร์ตมาร์เกตติ้ง ช่วยให้เข้าถึงคนกรุงเทพฯ โดยยอมทุ่มเงินหลักร้อยล้านกระโดดเข้ามาเป็น สปอนเซอร์ ในศึกแดงเดือดในไทยครั้งนี้

“แน่นอนว่าใช้งบขนาดนี้ยังไง ROI ในเรื่องยอดขายไม่คุ้มอยู่แล้ว แต่เรามองว่ามันจะช่วยทำให้แอดไวซ์เป็นที่รู้จักของคนกรุงมากขึ้น เพราะกิจกรรมจัดในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ขณะที่กลุ่ม Gen Z นอกจากเล่นเกมเขาก็ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลด้วย และสุดท้าย แอดไวซ์อยากคืนกำไรให้ลูกค้าแล้วก็ประเทศ เพราะการแข่งขันจะช่วยฟื้นการท่องเที่ยวในไทย”

เป้าหมายสุดท้ายเป็นคอมมูนิตี้ไอที

สำหรับแผนการการขยายสาขาของแอดไวซ์จะเน้นที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก ส่วนในต่างจังหวัดจะเน้นรีโนเวตสาขาให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อสร้างเป็น คอมมูนิตี้ ไม่ใช่แค่ร้านขายสินค้าไอที เช่น พื้นที่ให้ Work From Home การจัดพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยน เป็นต้น นอกจากนี้ แอดไวซ์ยังขยายสู่สมาร์ทดีไวซ์อื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ IoT ภายในบ้านอีกด้วย

ไม่รู้ว่าตั้งแต่การใช้ ป้าอ้วน มา อีสปอร์ต บวกกับการเป็นสปอร์นเซอร์ The Match จะเพียงพอสำหรับสร้างการรับรู้รวมถึงเสริมภาพให้กับแบรนด์พอที่จะ IPO หรือไม่ ซึ่งทางแอดไวซ์คาดว่าในเดือน มิ.ย.จะมีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จให้ได้ภายในปีนี้หรือไม่ คงต้องติดตามกัน