‘อียู’ ออกกฎให้ ‘Big Tech’ ลบคอนเทนต์ต้องห้าม ไม่ทำเจอปรับ 6% ของรายได้ทั้งปี!

สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้มีข้อสรุปกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมเหล่า Big Tech ของโลก โดยกำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มต้องลบเนื้อหาที่เป็นอันตราย หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับเงิน 6% ของรายได้ทั้งปี

สหภาพยุโรปและสมาชิกรัฐสภา ได้บทสรุปในพระราชบัญญัติบริการดิจิทัล (Digital Services Act – DSA) ซึ่งเป็นส่วนที่สองของโครงการขนาดใหญ่เพื่อควบคุมบริษัทเทคโนโลยี มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ที่มีคอนเทนต์ต้องห้ามจำนวนมาก ตั้งแต่คำพูดแสดงความเกลียดชังไปจนถึงการบิดเบือนข้อมูล และภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

“แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ที่ทำตัวเหมือน ‘ใหญ่เกินกว่าจะดูแล’ กำลังจะหมดลงด้วย DSA กฎใหม่ของเราจะปกป้องผู้ใช้ทางออนไลน์ รับรองเสรีภาพในการแสดงออกและโอกาสสำหรับธุรกิจ สิ่งที่ผิดกฎหมายออฟไลน์จะผิดกฎหมายออนไลน์ในสหภาพยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพ” เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน หัวหน้าคณะกรรมาธิการยุโรปทวีต

กฎระเบียบดังกล่าวจะกำหนดให้แพลตฟอร์มต้องลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอย่างรวดเร็วทันทีที่ทราบว่ามีอยู่ เครือข่ายโซเชียลจะต้องระงับผู้ใช้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายบ่อยครั้ง หลังจากที่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีถูกเรียกร้องหลายครั้งว่าล้มเหลวในการควบคุมแพลตฟอร์มของพวกเขา อาทิ การจู่โจมของผู้ก่อการร้ายในนิวซีแลนด์ที่ถ่ายทอดสดบน Facebook ในปี 2019 และการจลาจลที่โกลาหลในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วได้รับการส่งเสริมผ่านทางออนไลน์

นอกจากจะบังคับให้รีบลบเนื้อหาที่เป็นอันตรายแล้ว อีกส่วนสำคัญของกฎหมายนี้คือ การจำกัดวิธีที่การกำหนดเป้าหมายผู้ใช้งานสำหรับการโฆษณาออนไลน์ โดย DSA จะห้ามไม่ให้กำหนดเป้าหมายด้านการโฆษณากับผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก ข้อมูลเพศ เชื้อชาติหรือศาสนา หากบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามกฎใหม่ดังกล่าวอาจต้องเสียค่าปรับสูงถึง 6% ของรายได้ในปีนั้น ๆ

ทั้งนี้ กฎระเบียบนี้เป็นแนวทางร่วมกับ Digital Markets Act (DMA) ซึ่งกำหนดเป้าหมายแนวปฏิบัติในการต่อต้านการแข่งขันในกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เพื่อพยายามจะควบคุมอำนาจทางการตลาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่นั้น ๆ

Source