“ญี่ปุ่น” ครองแชมป์ดัชนีพัฒนา “การท่องเที่ยว” ปี 2021 อินโดฯ พุ่งแซงไทยบนเวทีโลก

(Photo by Tomohiro Ohsumi/Getty Images)
World Economic Forum จัดทำรายงานดัชนีการพัฒนา “การท่องเที่ยว” ประจำปี 2021 “ญี่ปุ่น” ครองแชมป์แทนที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่ “ไทย” ร่วง 1 อันดับมาอยู่ที่ 36 “อินโดนีเซีย” พุ่งแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับ 32 ของโลก อนาคตท่องเที่ยวยังอึมครึมจากสภาวะเศรษฐกิจ แต่จะได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวแบบใหม่กลุ่ม “ดิจิทัลโนแมด” หรือ “เที่ยวพร้อมกับทำงานไปด้วย”

การจัดทำรายงานดัชนีการพัฒนา “การท่องเที่ยว” หรือ Travel & Tourism Development Index (TTDI) จัดโดย World Economic Forum ติดต่อกันมา 15 ปี เพื่อสำรวจการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศทั่วโลก ครั้งนี้มีการเก็บข้อมูล 117 ประเทศ และด้วยสถานการณ์ยากลำบากในช่วง COVID-19 ทำให้ค่าเฉลี่ยการพัฒนาทั่วโลกปรับคะแนนขึ้นเพียง +0.1% มีแค่ 39 ประเทศที่พัฒนาในเชิงบวกได้สำเร็จ

รายงาน TTDI ถูกจัดทำเนื่องจากเห็นว่าภาคการท่องเที่ยวถือเป็นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางถึงล่างที่พึ่งพิงภาคการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง และเป็นอุตสาหกรรมที่จ้างแรงงานจำนวนมาก ในกรณีของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีค่าเฉลี่ยสัดส่วนของภาคท่องเที่ยวคิดเป็น 12-13% ของจีดีพีประเทศ ทำให้การพัฒนาการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งจะทำให้เศรษฐกิจประเทศได้ประโยชน์

Photo : Shutterstock

วิธีการวัดผลจะแบ่งการเก็บคะแนนออกเป็น 5 หมวด ได้แก่

  • สภาพแวดล้อมทางการท่องเที่ยว: สภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจท่องเที่ยว, ความปลอดภัย, สุขอนามัย, แรงงานและทรัพยากรบุคคล, ความพร้อมด้านไอซีที
  • นโยบายด้านการเดินทางท่องเที่ยว: การให้ความสำคัญต่อการท่องเที่ยว, การเปิดรับต่อความเป็นสากล, การแข่งขันด้านราคา
  • โครงสร้างพื้นฐาน: การเดินทางทางอากาศ, การเดินทางภาคพื้นและทางน้ำ, โครงข่ายบริการนักท่องเที่ยว
  • เครื่องยนต์ขับเคลื่อนดีมานด์การท่องเที่ยว: ทรัพยากรทางธรรมชาติ, ทรัพยากรทางวัฒนธรรม, ทรัพยากรที่ไม่ใช่การพักผ่อน เช่น เดินทางเพื่อธุรกิจ การศึกษา การแพทย์
  • ความยั่งยืนด้านการเดินทางท่องเที่ยว: ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม, เปิดกว้างต่อความเท่าเทียมทางชนชั้นและสังคม เช่น จ้างงานอย่างเท่าเทียมทางเพศ จ้างงานคนพิการ, การรับความกดดันและผลกระทบจากดีมานด์การท่องเที่ยว เช่น นโยบายแก้ปัญหา overtourism
“10 ประเทศที่พัฒนาด้านการท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลก ปี 2021”

อันดับ 1 ญี่ปุ่น
อันดับ 2 สหรัฐอเมริกา
อันดับ 3 สเปน
อันดับ 4 ฝรั่งเศส
อันดับ 5 เยอรมนี
อันดับ 6 สวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 7 ออสเตรเลีย
อันดับ 8 สหราชอาณาจักร
อันดับ 9 สิงคโปร์
อันดับ 10 อิตาลี

การจัดอันดับครั้งนี้ ญี่ปุ่น แซงหน้าสหรัฐอเมริกาแชมป์เก่าเมื่อปี 2019 ขึ้นไป อีกประเทศในกลุ่มอันดับต้นๆ ที่ลดอันดับลงมากคือ สหราชอาณาจักร ซึ่งตกลงมาถึง 5 อันดับ

นิวยอร์ก เมืองท่องเที่ยวสุดฮิตของสหรัฐฯ หลังเปิดประเทศ (Photo: Shutterstock)
“อันดับประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

อันดับ 9 สิงคโปร์
อันดับ 32 อินโดนีเซีย
อันดับ 36 ไทย
อันดับ 38 มาเลเซีย
อันดับ 52 เวียดนาม
อันดับ 75 ฟิลิปปินส์
อันดับ 79 กัมพูชา
อันดับ 93 สปป.ลาว
*เมียนมาและบรูไนไม่อยู่ในการวัดดัชนี TTDI

ที่น่าสนใจมากคือ อินโดนีเซีย ที่ปรับอันดับขึ้นมาถึง 12 อันดับจากการวัดครั้งก่อน รวมถึง เวียดนาม ที่ขยับขึ้นมา 8 อันดับ ขณะที่ ไทย ร่วงลงไป 1 อันดับ และ มาเลเซีย ร่วงไปถึง 9 อันดับ ทำให้อินโดนีเซียวิ่งแซงทั้งไทยและมาเลเซียขึ้นไปได้

คู่แข่งสำคัญของไทย “อินโดนีเซีย” ปรับตัวพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว (Photo : Shutterstock)

กลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกอื่นๆ ที่อยู่ในลำดับต้นของดัชนีนี้ เช่น จีน อันดับที่ 12, เกาหลีใต้ อันดับที่ 15, ฮ่องกง อันดับที่ 19 และนิวซีแลนด์ อันดับที่ 27

โดยสรุป อนาคตการท่องเที่ยวทั่วโลก World Economic Forum มองว่ายังมีปัจจัยลบจากความตึงเครียดทางการเมืองโลก แรงงานขาดแคลน และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกจากเทรนด์การท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น การท่องเที่ยวในประเทศ เที่ยวทางธรรมชาติ และกลุ่มดิจิทัลโนแมด หรือกลุ่มเที่ยวพร้อมกับทำงานไปด้วย ซึ่งรอให้ผู้ประกอบการปรับตัวตอบรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เหล่านี้

Source