จุดแข็งโออิชิ
พลังเครือข่าย
การมีเครือข่ายการจัดส่งและร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มหลากหลายภายใต้บริษัทเดียวกันของไทยเบฟฯ ทำให้กระจายสินค้าได้กว้างและทั่วถึง และมีอำนาจต่อรองกับร้านค้าที่ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการผลักดันยอดขายโออิชิ
โดยเฉพาะช่องทางการขายผ่าน Traditional Trade ถือเป็นจุดแข็งสำคัญของโออิชิที่กระจายผ่านช่องทางเครือข่ายของไทยเบฟฯ 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ขายผ่านเอเย่นต์ต่างๆ ที่ส่งต่อให้ยี่ปั๊ว ซาปั๊วทั่วประเทศ อีกส่วนคือ ขายผ่านคู่ค้าแต่ละจังหวัดของไทยเบฟฯ ที่รับทำหน้าที่กระจายสินค้าทั้งหมดในเครือ ไปสู่ร้านค้าโชห่วยอีกต่อ คล้ายกับระบบตั้งตัวแทนของยูนิลีเวอร์ ขณะที่อีกช่องทางหนึ่งคือ เสริมสุข ที่เป็นช่องทางจำหน่ายหลักเข้าไปในร้านค้า ตู้แช่ ที่ไทยเบฟฯ ไม่สามารถเข้าถึงได้
ทั้งหมดนี้ สามารถครอบคลุมร้านค้า เกือบ 1.5 -2 แสนร้านค้าทั่วประเทศ
สำหรับช่องทางขาย เซเว่นอีเลฟเว่น หรือโมเดิร์นเทรด ด้วยเครือข่ายที่มีอยู่จำนวนมากของเครือข่ายเหล่านี้ ยากต่อการที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งจะควบคุมได้ ขึ้นอยู่กับสินค้าเป็นหลักว่าจะทำตลาดได้ดีแค่ไหน
ความหลากหลาย
ข้อได้เปรียบของการเป็นเบอร์ 1 ในตลาดที่อยู่มาก่อน ทำให้โออิชิมีจุดเด่นเรื่องความหลากหลายของสินค้า รสชาติ ขนาดแพ็กเกจจิ้ง และราคา ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่มให้เลือกมากกว่า
พลังทุนเงินทุน
เครือข่ายอาณาจักรธุรกิจของไทยเบฟฯ ที่ครอบคลุมทั้งเครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ ประกันชีวิต เป็นหลักประกันความพร้อมเรื่องเงินทุน ซึ่งทุกสินค้าต้องการ เพื่อสามารถทดลองออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว เช่น การออกชาคูลล์ซ่าซึ่งถือเป็นสินค้าที่นวัตกรรมอย่างแท้จริง ส่วนรสชาติและยอดขายจะเป็นที่ตอบรับของตลาดหรือไม่ต้องวัดผลกันอีกที
ส่วนตันเอง การดำเนินธุรกิจของอิชิตัน จะว่าไปแล้วก็คือการนำกำไรจากการขายโออิชิมาเป็นทุนเริ่มต้น ซึ่งเป็นเพียงแค่เงินลงทุนเพียงส่วนเดียว หากประสบความสำเร็จก็เท่ากับสามารถทำกำไรจากกำไรได้ แต่หากธุรกิจไม่เป็นไปตามที่คิดตันก็ไม่เสียหายอะไรและสามารถกลับไปทบทวน และเริ่มต้นธุรกิจอื่นได้จากทรัพย์สินที่สะสมไว้อีกมากมาย โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทที่ดิน ที่อยู่ในทำเลและสามารถแปลงทรัพย์สินมาเป็นทุนไม่ยาก
แต่ทุกธุรกิจก็เหมือนกัน แม้ว่าจะมีเงินทุนมากมายเพียงใดก็ต้องคิดถึงกำไรขาดทุน หากแข่งขันจนไม่มีกำไร สุดท้ายก็ยากจะอยู่ได้
จุดแข็งอิชิตัน
มากกว่าลูกจ้าง
การเป็นบริษัทใหม่ มีขนาดเล็กกว่า ตันจึงต้องซื้อใจทีมงาน กับการให้สิทธิ์เหนือกว่าการเป็นลูกจ้างธรรมดา ด้วยการสร้างเพื่อนร่วมธุรกิจที่เป็นทั้งลูกจ้างและหุ้นส่วน ทำให้ตันมีคนที่พร้อมจะทุ่มเททั้งสมองและแรงกายแรงใจ ทำงานให้กับเขาอย่างเต็มที่
ตันเลือกใช้วิธีรับสมัครที่แปลกแหวกแนว ชนิดที่ว่า NHK เดินทางมาถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ในเชิงเรียลลิตี้ถึง 5 วัน ด้วยการส่งคลิปยาว 2 นาที แนะนำตัวและบอกเหตุผลว่า ทำไม
ตันถึงต้องเลือกเขาเข้าทำงานกับบริษัทฯ ผ่านแคมเปญ The 9 Challengers ผู้สมัครที่ได้รับคัดเลือกทั้ง 9 คน จะได้ทำงานพร้อมกับได้รับหุ้นบริษัท ไม่ตัน จำกัด มูลค่า 300,000 บาท เมื่อทำงานครบ 3 ปี
ต่อมา ตันเปิดรับสมัครทีมงาน 20 Challengers Food Business ทั้ง 20 คนที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับหุ้นมูลค่า150,000 บาท เมื่อทำงานครบ 3 ปี ส่วนพนักงานอื่นๆ ตันเปิดให้ซื้อหุ้นมูลค่า 10 เท่าของเงินเดือน ผ่อนจ่าย 5 ปีไม่มีดอกเบี้ย
มี Public เป็นพวก
ในขณะที่ไทยเบฟฯ มีระบบแบบธุรกิจทั่วไป แต่ตันสร้างความแตกต่างในเรื่องของการเป็นคนเปิดเผย กล้าแสดงออกทั้งเรื่องที่ประสบความสำเร็จ และล้มเหลวให้สาธารณชนรับรู้ใช้สาธารณชนหรือพับบลิกเป็นเพื่อน จึงเหมือนมีสาธารณชนเป็นพวกด้วย คนกลุ่มนี้นอกจากเป็นผู้รับรู้ข่าวสาร อีกด้านหนึ่งก็เป็นลูกค้าที่พร้อมจะซัพพอร์ตเขาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการที่คนส่วนใหญ่ยอมรับว่าตันเป็นคนเปิดเผยและจริงใจ ซึ่งหาดูได้ยากจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่จะมีลูกลุยและสร้างประสบการณ์สนุกสนานให้กับพวกเขาได้แบบตัน
พลังแบรนด์ตัน
ทุกคนจดจำโออิชิได้ทั้งชื่อและรสชาติ โดยจำได้ว่านั่นคือความเป็นตัน เพราะตันคือผู้สร้างโออิชิ แล้วการทำตลาดสไตล์ตันทำให้ผู้บริโภคผูกพันกับแบรนด์ และรู้สึกเป็นกันเองกับแบรนด์ได้มากกว่า จึงมีโอกาสที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนจากการดื่มโออิชิมาดื่มอิชิตัน เมื่อนึกถึงชาเขียว เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็เชื่อว่า ไม่ว่ารสชาติจะแตกต่างจากเดิมหรือไม่ แต่รสชาติของอิชิตันก็ไม่น่าจะแย่กว่าโออิชิ
พลังสาวกใน Social Media
ตันเรียนรู้การใช้พลังของโซเชี่ยลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กในการเชื่อมโยงตัวเขาและกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มาตลอด นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท ไม่ตัน ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวของการต่อสู้ของเขาที่ยังคงเป็นเนื้อหาที่คนยุคนี้ยังคงให้ความสนใจอยู่เสมอ
เขายังใช้เครือข่ายนี้ในการเชื่อมโยงระหว่างออนไลน์มาสู่ออฟไลน์ ในการทำกิจกรรมเพื่อโปรโมตสินค้าที่เขาทำตลาดอยู่อย่างได้ผล เช่น งานดับเบิ้ล ดริ้งค์ มีท แอนด์ กรี๊ด ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ หลังจากแคมเปญลึกซึ้งคอนเทสต์ (การประกวดคลิปวิดีโอแสดงไอเดียการดื่มดับเบิ้ล ดริ้งค์ในรูปแบบต่างๆ) ได้รับการตัดสินแล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมประกวดทั้ง 99 คลิป และผู้ร่วมโหวตอีก 13,969 คน
สินค้าราเมน แชมเปี้ยน คือตัวอย่างการใช้ Facebook เป็นสื่อในการโปรโมตผ่านกลุ่มเป้าหมายจนประสบความสำเร็จ โดยไม่ได้พึ่งพาสื่อ Above the line
บี้ Fan page กันมันหยด | |
OISHI News Station (Food&Beverage) | ตัน ภาสกรนที (Public Figure) |
383,394 | 380,880 |
ตันเลือกที่จะสร้างแบรนด์อิชิตัน ผ่าน Fanpage ของเขา ซึ่งโดยหลักการทั้ง 2 Fanpage ข้างต้น จะจัดอยู่ในคนละกลุ่มกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว Food&Beverage ของโออิชิ และการเป็น Public Figure ของตัน คือคู่ชกตัวจริง แถมมีตัวเลขใกล้เคียงกันอีกต่างหาก แต่ถ้าพูดถึงอัตราการเติบโตแล้ว Fanpage ของตันมาแรงกว่า เพราะเปิดหลัง Oishi News Station นานนับปี
ขณะที่ Fanpage ของอิชิตันเอง มีแฟนเพียง 46,071 ราย ขณะนี้ใช้ทำหน้าที่โปรโมตกิจกรรมของดับเบิ้ล ดริ้งค์ เท่านั้น
ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554
โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) | ||
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ | จำนวน | สัดส่วน |
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) | 167,360,199 | 89.26% |
UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED | 8,692,600 | 4.64% |
นาย ตัน ภาสกรนที | 6,562,500 | 3.50% |
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 1,616,700 | 0.86% |
CITIBANK NOMINEES SINGAPORE PTE LTD-UBS AG LONDON BRANCH-NRB | 1,000,000 | 0.53% |
กำไร (ล้านบาท) | |||
2553 | 2552 | 2551 | 2550 |
1,009.48 | 751.33 | 592.47 | 558.37 |
กำไรสุทธิ (ล้านบาท) | |||
ไตรมาส 1/2554 | ไตรมาส 1/2553 | ||
337 | 192 | ||
กำไรไตรมาส 1/2554 เทียบกับไตรมาส1/2553 เติบโต 75.5% |
การเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัทใหม่หลังการลาออกของตัน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2554 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 ได้มีมติอนุมัติแต่งตั้ง ปณต สิริวัฒนภักดี ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท แทน สุนิสา สุขพันธ์ถาวร (ภรรยาของตัน) ตามการพิจารณาเสนอแนะของคณะกรรมการสรรหา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554
(ณรงค์ ศรีสอ้าน ประธานกรรมการบริหาร และนายโช เอวี่ย จิ้น กรรมการบริหาร ลาออกจากตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554)
ฐาปน สิริวัฒนภักดี |
ประธานกรรมการบริหาร โดยก่อนหน้าเขาเป็นรองประธาน |
กรรมการบริหาร | |
อวยชัย ตันทโอภาส | รองประธานกรรมการบริหาร |
สิทธิชัย ชัยเกรียงไกร | รองประธานกรรมการบริหาร |
แมทธิว กิจโอธาน | กรรมการผู้จัดการ |
พิษณุ วิเชียรสรรค์ | กรรมการผู้จัดการ |
สุรีย์พร ประดิษฐ์ทัศนีย์ | กรรมการผู้จัดการ |
ไพบูลย์ คุจารีวณิช | กรรมการผู้จัดการ |
ไพศาล อ่าวสถาพร | กรรมการผู้จัดการ |
อนิรุทธิ์ มหธร | กรรมการผู้จัดการ |
ส่วนใหญ่เป็นคนของไทยเบฟฯ มี ไพศาล อ่าวสถาพร ที่เป็นคนเก่าของตันที่ยังคงอยู่ในบอร์ด
Timeline | |
2542 | • ตัน ภาสกรนที เปิดบริการร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ที่ทองหล่อ ภายใต้ชื่อ “โออิชิ” |
2544 | • เปิดบริการ โออิชิ ราเมน และอิน แอนด์ เอาท์ เบเกอรี่ |
2545 |
• ปรับโครงสร้างการดำเนินงานเพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นหลายรูปแบบรวมทั้งร้านเบเกอรี่เพื่อสุขภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 300 ล้านบาท • เข้าสู่ตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ภายใต้แบรนด์ “โออิชิ” โดยว่าจ้าง OEM • เปิดบริการ ชาบูชิ |
2546 | • ผลิตและจำหน่ายชาเขียวเอง |
2547 |
• แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน • เปิดบริการ โออิชิ แกรนด์ บุฟเฟ่ต์ ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ |
2548 |
• เผชิญปัญหาความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพในการผลิต • ออกแคมเปญรวยฟ้าผ่า 30 ฝา 30 ล้าน เป็นต้นเหตุให้ Instant Win กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย • ผลิตและจำหน่ายFunctional Drink ภายใต้แบรนด์ อะมิโน โอเค |
2549 |
• ผลิตและจำหน่ายน้ำส้ม ภายใต้แบรนด์ เซกิ • ไทยเบฟเวอเรจเข้าซื้อหุ้นโออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) |
2551 |
• 30 กันยายน ตันขายหุ้นจำนวน 103.125 ล้านหุ้น หรือ 43.9% ในราคา 32.50 บาท รวมเป็นมูลค่า 3,352 ล้านบาทให้กับไทยเบฟฯ • ผลิตและจำหน่ายกาแฟคอฟฟีโอ • เปิดบริการร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ A lar carte ชื่อไมโดะ โอคินิ โชกุโดะ |
2552 |
• เปิดบริการร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อุด้ง โซบะ ชื่อ คาโซกูเตะ • รีแบรนด์ อะมิโน โอเค เป็น อะมิโน พลัส |
2553 |
• 28 กรกฎาคม ตัน ยื่นใบลาออกจากโออิชิ กรุ๊ป • 9 กันยายน การลาออกจากโออิชิ กรุ๊ป ของตันมีผลอย่างเป็นทางการ และเปิดตัวบริษัท ไม่ตัน จำกัด |
2554 |
• กุมภาพันธ์ ไม่ตัน เปิดตัวน้ำสมุนไพรดับเบิ้ล ดริ้งค์ • มีนาคม โออิชิ เปิดตัวน้ำชาเขียวผสมน้ำผลไม้ ฟรุตโตะ • พฤษภาคม เปิดตัวชาเขียวออร์แกนิก อิชิตัน จำหน่ายราคาขวดละ 16 บาท โออิชิทำโปรโมชั่นลดราคาเหลือขวดละ 16 บาท จากปกติ 20 บาท • 13 มิถุนายน โออิชิเปิดตัวชาคูลล์ซ่า ชาเขียวอัดลม • 27 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม อิชิตัน ออกแคมเปญลดสุดแรงร่วมกับ 7-Eleven ซื้อดับเบิ้ล ดริ้งค์ 1 ขวด แลกซื้ออิชิตัน 1 บาท |
โออิชิเข้าตลาดในราคาเริ่มต้นที่ 19 บาท จากนั้นก็สูงขึ้นเป็นลำดับ หลังพ้นมือตัน ดูเหมือนราคาหุ้นของโออิชิยังคงรักษาระดับได้ดี โดยเคยขึ้นไปถึง 109 บาท