ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้เงินเฟ้อจะลดลงในไตรมาส 4 มองเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ถึง 2.9%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อของไทยจะทำจุดสูงสุดในไตรมาส 3 ขณะเดียวกันก็ได้ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทยปีนี้เป็น 2.9% จากอานิสงส์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ขณะเดียวกันก็คาดว่าปัญหาเงินเฟ้อจะกดดันคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง พร้อมมองค่าเงินบาทมีโอกาสแตะระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ใน 1-2 เดือน

สำหรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับ GDP ไทยเพิ่มขึ้นคือปัจจัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2022 นี้ไทยจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 7.2 ล้านคน และจะเป็นเครื่องยนต์ตัวสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยในช่วง 5 เดือนแรกนี้อยู่ที่ 1.31 ล้านคนแล้ว

ขณะที่ปัจจัยในเรื่องการส่งออกที่เป็นอีกเครื่องยนต์ตัวสำคัญของเศรษฐกิจไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบโตได้ราวๆ 7.8% แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าค่าเงินบาทที่อ่อนของไทยในช่วงนี้ส่งผลดีให้กับการส่งออกจำกัด แต่ปัจจัยที่ทำให้ภาคการส่งออกของไทยดีนั้นมาจากสภาวะเติบโตของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ดี สำหรับปัญหาเงินเฟ้อของไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยจะทำจุดสูงสุดในไตรมาส 3 และลดลงในไตรมาส 4 ส่วนความกังวลในเรื่องของการขาดแคลนอาหารนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าไทยมีความเสี่ยงในด้านการขาดแคลนอาหารที่ต่ำ แต่ความเสี่ยงสินค้าที่อาจมีปริมาณตึงตัวได้แก่ น้ำมันปาล์ม รวมถึงข้าว ขณะที่เนื้อสัตว์อย่างหมูและไก่มีความเสี่ยงต่ำกว่า

ข้อมูลจาก KResearch

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังได้คาดการณ์ว่าราคาอาหารไทยอาจปรับตัวขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ และมีแนวโน้มยืนสูงต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงช่วงกลางปีหน้า

ทางด้านของค่าเงินบาทที่กำลังอ่อนตัวอยู่ในขณะนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าค่าเงินบาทของไทยอาจแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐภายในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งทิศทางค่าเงินบาทของไทยที่อ่อนค่ามาในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า แต่ในเดือนมิถุนายนนั้นเกิดสาเหตุหลักมาจากจากเงินทุนไหลออก

การอ่อนค่าของค่าเงินบาทเองนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าจะเพิ่มแรงกดดันในการชำระหนี้ระยะสั้นที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคเอกชนของไทยที่กู้ยืมเงินเป็นสกุลต่างประเทศจำนวนมาก

ส่วนความกังวลที่ว่าประเทศไทยอาจเหมือนกับประเทศที่กำลังพัฒนาหลายๆ ประเทศที่เกิดวิกฤตอยู่นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ย้ำว่าในกรณีของประเทศไทย ทุนสำรองระหว่างประเทศยังแข็งแกร่งอยู่ ต่างกับประเทศอื่นในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังประสบปัญหาในตอนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจอ่อนแอ และทุนสำรองระหว่างประเทศนั้นต่ำมากๆ