จะเรียกว่าเป็นเทรนด์ก็คงไม่ใช่ เมื่อเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ออกมาปลดพนักงานกันเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Meta, Amazon, Uber โดยเฉพาะ Netflix ที่ปลดพนักงานไปแล้วรวม ๆ 450 ราย หลังจากที่จำนวนผู้ใช้ลดจนกระทบกับรายได้ ล่าสุดก็ถึงคิวของ เทสล่า (Tesla) ที่เลย์ออฟพนักงานถึง 200 คน
มีรายงานว่า เทสล่า ได้เลิกจ้างพนักงาน 200 คน ในทีม Autopilot โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานจ้างรายชั่วโมง เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปิดโรงงานในแคลิฟอร์เนีย ส่วนพนักงานที่เหลืออีกราว 350 คน จะถูกโยกไปทำงานในโรงงานใหม่ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
สำหรับทีมงานที่ถูกเลิกจ้างมีหน้าที่ในการประเมินข้อมูลรถยนต์ของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติช่วยเหลือคนขับอัตโนมัติและติดฉลากข้อมูล โดยพนักงานหลายคนที่ถูกเลิกจ้างถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำหมายเหตุประกอบข้อมูล โดยพวกเขาจะได้รับเงินเต็มจำนวนในอีก 60 วันข้างหน้า และข้อมูลการชดเชยและสวัสดิการจะถูกส่งไปที่อีเมล โดยค่าชดเชยคาดว่าจะรวมค่าชดเชยตามจำนวนปีที่ทำงานและผลประโยชน์เพิ่มเติมอีก 2 เดือน
ปัจจุบัน เทสล่ามีพนักงานทั่วโลกประมาณ 100,000 คน โดยมีสำนักงานใหญ่ของเทสล่าปัจจุบันตั้งอยู่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส และบริษัทกำลังสร้างโรงงานใหม่ในออสตินและเบอร์ลิน ทำให้บริษัทเริ่มมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็เริ่มส่งสัญญาณว่าจะเริ่มลดจำนวนพนักงานลง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสล่า ได้ร่างแผนการที่จะ ลดพนักงานเงินเดือนลง 10% ในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้ แต่บริษัทจะเพิ่มพนักงานจ้างรายชั่วโมงแทน เนื่องจาก สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น
ทั้งนี้ หุ้นของเทสลาร่วงลงน้อยกว่า 1% ในการซื้อขายช่วงหลัง แต่ในช่วงปีนี้หุ้นร่วงลงไปแล้วถึง 34% เทียบกับการลดลง 20% ในดัชนี SP 500