ความท้าทายของ HOKA กับการไต่ขึ้นเบอร์ 3 ในตลาด “รองเท้าวิ่ง”

ถือว่าเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งน้องใหม่ในไทย สำหรับ HOKA เพิ่งทำตลาดได้ 5 ปี แต่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เป้าหมายสุดยิ่งใหญ่ ขอเบียดขึ้นเบอร์ 3 ในตลาดรองเท้าวิ่ง เคียงคู่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตำนานอย่างไนกี้ และอดิดาสให้ได้

HOKA (โฮก้า) แบรนด์รองเท้าวิ่งสัญชาติฝรั่งเศส ได้เริ่มทำตลาดในระดับโกลบอลได้ 13 ปี ถือว่ามีอายุน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาดที่อยู่มาหลาย 10 ปีแล้ว ส่วนในไทยได้ทำตลาดได้ 5 ปี โดยบริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด เป็นผู้บริหารลิขสิทธิ์ และตัวแทนจัดจำหน่ายในไทย

เรียกว่าเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งสาย Performance ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ มีจุดเด่นที่ผสมผสานรองเท้าแนวคูชั่นนิ่ง (Cushioning) ที่รองรับแรงกระแทกได้อย่างดี จะเห็นได้ว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่มีพื้นค่อนข้างหนา เพื่อเน้นความสบาย สวนกระแสเทรนด์ของรองเท้าวิ่งในสมัยนี้ที่นิยมความบางเบา

แต่เดิม HOKA แจ้งเกิดจากสายวิ่งอัลตร้า หรือวิ่ง 100 กิโลเมตร รวมไปถึงสายวิ่งเทรล จะมีกลุ่มแฟนที่แข็งแกร่งมาก เพราะวิ่งสายเทรลจำเป็นต้องมีรองเท้าที่รองรับโดยเฉพาะ ต้องซัพพอร์ตอย่างดี แต่ในปัจจุบันเริ่มมีฐานแฟนจากนักวิ่งทั่วไปมากขึ้น เพราะมีรองเท้าหลายรุ่นออกมาเพื่อจับกลุ่มนักวิ่งให้ครบทุกกลุ่ม

ในปีนี้เป็นอีกปีที่ได้เห็นการรุกตลาดมากขึ้นของ HOKA ได้เปิดแคมเปญใหญ่ FLY HUMAN FLY เป็นแท็กไลน์ใหม่ของแบรนด์ที่จะใช้ในการสื่อสารในปีนี้ด้วย จากเดิมที่ใช้แท็กไลน์ว่า Time to Fly เพื่อสื่อสารว่าคนที่ใส่ HOKA เหมือนบินได้

พร้อมกับเปิดตัวรองเท้ารุ่น Mach 5 (มัคไฟฟ์) ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดในตระกูล Mach (มัค) อีกหนึ่งแฟล็กชิพสำหรับรองเท้าสายวิ่งถนน สำหรับนักวิ่งที่อยากเพิ่มสปีดของตัวเอง

พรินทร ติยะวุฒิโรจน์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด เล่าว่า

“แบรนด์ HOKA เพิ่งอยู่ในไทยได้แค่ 5 ปี แต่ถือว่าเติบโตเร็ว ภาพรวมทั่วโลกมีการเติบโตถึง 300% ในปีนี้จะเริ่มทำแคมเปญกับดีไซเนอร์ในต่างประเทศ และทำเรื่องสีสันมากขึ้น รวมไปถึงจับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่แค่นักวิ่งมากขึ้น สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้ เป็น Comfort Shoes ที่ใส่แล้วสบาย”

ส่วนสถานการณ์ COVID-19 มีส่งผลกระทบต่อวงการวิ่งบ้าง แต่พรินทรบอกว่านักวิ่งก้ยังคงวิ่งต่อเนื่อง แต่อาจจะวิ่งระยะสั้นลง เพราะไม่มีจัดงานวิ่ง อาจจะไม่มีเป้าหมายในการวิ่งมากนัก แต่วิ่งเพื่อออกกำลังกายมากกว่าแนวโน้มตลาดงานวิ่งเริ่มกลับมาคึกคัก โดยปกติงานวิ่งในไทยมีเฉลี่ย 3,000-4,000 งาน/ปี มีเซ็กเมนต์หลากหลายมาก

แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดไม่นาน พรินทรหมายมั่นปั้นมือที่จะให้ HOKA ขึ้นแท่น Top 3 ในตลาดรองเท้าวิ่ง ทั้งในแง่ของส่วนแบ่งตลาด และ Top of Mind ของผู้บริโภค โดยที่ปัจจุบันอยู่ในอันดับ Top 5 ถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างมาก เพราะต้องสร้างลอยัลตี้กับนักวิ่งให้ได้

ในปีนี้คาดว่าตลาดรองเท้าวิ่งน่าจะกลับมาคึกคักตามงานวิ่งที่เริ่มเปิดมากขึ้น ตั้งเป้าภาพรวมของ HOKA เติบโต 30%