ปฏิเสธไม่ได้ว่า เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) กำลังมีปีที่แย่สุด ๆ เพราะปัจจุบัน มูลค่าบริษัทร่วงไปถึง 70% หลังจากที่จำนวนผู้ใช้ลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี และคาดว่าไตรมาส 2 ผู้ใช้จะหายถึง 2 ล้านคน ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายหลายพันล้านดอลลาร์ จนบริษัทต้องเลิกจ้างพนักงานหลายร้อยคน
หนึ่งในสิ่งที่ Netflix คิดจะทำเพื่อกู้วิกฤตบริษัทก็คือ การหาวิธีทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถ แชร์บัญชี ได้อีกต่อไป ล่าสุด Netflix หาวิธีได้แล้ว และจะทดลองใช้เดือนหน้าใน 5 ประเทศ อาร์เจนตินา, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา, และฮอนดูรัส ซึ่ง Netflix เคยระบุว่าภูมิภาคแถบลาตินอเมริกาถือเป็นภูมิภาคที่มีการแชร์บัญชีกันมากที่สุด และ Netflix เคยประเมินว่ามีการแชร์บัญชีถึง 100 ล้านครัวเรือนเลยทีเดียว
สำหรับหลักการการป้องการการแชร์บัญชี คือ แพลตฟอร์มจะให้ผู้ใช้งานใส่ที่อยู่บ้านที่จะเป็นบ้านหลักของบัญชี อุปกรณ์ใดก็ตามที่ใช้งานในบ้านนี้จะดูได้ตามปกติ แต่ถ้าเกิดใช้ในพื้นที่ที่ไม่ใช่บ้านหลักที่ลงทะเบียนไว้นานเกิน 1 สัปดาห์ Netflix จะบังคับให้เพิ่มที่อยู่บ้านอีกหนึ่งหลัง พร้อมกับคิดค่าบริการเพิ่ม 2.99 เหรียญ หรือราว 100 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ บริษัทเพิ่งได้ประกาศจับมือกับ Microsoft ในแผนการเพิ่มแพ็กเกจใหม่ราคาประหยัดแต่จะมาพร้อมโฆษณา โดยแผนดังกล่าวจะกลายเป็นส่วนสำคัญของแผนการของ Netflix ในการเพิ่มรายได้ในอนาคต
“ตลาดสตรีมมิ่งเติบโตเต็มที่และอิ่มตัวแล้ว ดังนั้นนักลงทุนจะถามว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปและการเติบโตจะมาจากไหน Netflix ตั้งความหวังไว้กับการโฆษณา” แอนดรูว์ แฮร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายวิจัยของ Magid กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้จะไม่ใช่ปีที่ดีนักของ Netflix แต่ยังถือเป็นเบอร์ 1 ของโลก มีสมาชิก 221.6 ล้านคนทั่วโลก