อีสท์สปริง ชู 3 กลยุทธ์หลังควบรวมกิจการ บลจ. ทหารไทย และ ธนชาต

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ประกาศวิสัยทัศน์หลังควบรวมกิจการระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring)

ซึ่งการควบรวมกิจการของ บลจ. ทหารไทย กับ บลจ. ธนชาต ถือเป็นการควบรวมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในตลาดการเงินและการลงทุนของประเทศไทย หลังจากที่ทางอีสท์สปริง ได้เข้าซื้อหุ้นของ บลจ. ทหารไทย รวมถึง บลจ. ธนชาต ในปี 2020 เป็นต้นมา

โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุด ของ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้แก่ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลถือหุ้นอยู่ที่ 59.5% และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต ถือหุ้นอยู่ที่ 40.5%

ในการควบรวมกิจการของ 2 บลจ. นี้จะทำให้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์การเงินนั้นเด่นชัดมากขึ้น ซึ่งในอดีตนั้น 2 บลจ. นี้มีจุดขายแตกต่างที่แตกต่างกันก็คือ บลจ. ทหารไทย จะเน้นกองทุนรวมประเภท Passive Fund ที่เคลื่อนไหวตามดัชนี เช่น SET 50 ของไทย หรือ S&P 500 ของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ขณะที่ บลจ. ธนชาต เองก็มีจุดเด่นในเรื่องของกองทุนรวมประเภท Active ที่มีผู้จัดการกองทุนเลือกสินทรัพย์ในการลงทุน โดยกองทุนที่มีชื่อเสียง เช่น กองทุน Low Beta ที่ทำผลตอบแทนได้ดีเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หลังจากการควบรวมกิจการกันแล้วนั้น อีสท์สปริง ชูกลยุทธ์ 3 เสาหลัก เพื่อเดินหน้าสู่ตัวเลือกในการลงทุนอันดับต้นของคนไทย ในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทให้เติบโตไปอีกขั้น ได้แก่

  • Global Access with Asia Focus ปัจจุบันการลงทุนในต่างประเทศถือเป็นแนวโน้มการลงทุนสำคัญที่ผู้ลงทุนชาวไทยไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีและมีตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลายกว่า ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของบลูมเบิร์กระหว่างปี 2558 ถึง 2564 พบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูงถึง 11.5% ต่อปี เทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยซึ่งอยู่ที่ 4.7% และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการออกกองทุนต่างประเทศที่มีความครอบคลุมและหลากหลาย
  • Investment Advisory & Market Insights บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อว่าการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือ Asset Allocation เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพตลาดและภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ยิ่งทำให้การกระจายการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยทาง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มีแผนที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ที่จะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้
  • Holistic Health & Wealth – ด้วยจุดแข็งสำคัญที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) ผู้ให้บริการทางการเงินระดับสากล บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อมั่นว่าการผสานกันระหว่างแนวคิดความมั่งคั่งที่มาพร้อมความมั่นคงจะต่อยอดความสำเร็จในโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น ณ ปัจจุบัน ทางบริษัทมีประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) ที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนผ่านพรูเด็นเชียลทั้งหมด 16 กองทุน

อดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวช่วงหนึ่งของงานแถลงข่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ การเติบโต และความแข็งแกร่งของเรา วันนี้เราพร้อมแล้วกับการส่งมอบประสบการณ์การลงทุนที่มีคุณภาพแก่นักลงทุนชาวไทย ภายใต้แบรนด์ใหม่อย่าง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างหลากหลาย

ปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิอยู่ที่ 342,390 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565) ซึ่งถือว่า บลจ. รายนี้นั้นใหญ่อันดับ 6 ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย