รายได้ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของจีนอย่าง ‘เทนเซ็นต์’ (Tencent) ลดลงทุกไตรมาสเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการเล่นเกมในประเทศจีนและการฟื้นตัวจากการระบาดของ COVID-19 ยังไม่เต็มร้อย
Tencent รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ที่พลาดเป้าทั้งรายได้และกำไร โดยรายได้รวมอยู่ที่ 134,034 ล้านหยวน ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 28,139 ล้านหยวน โดยหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้รายได้ของ Tencent หดหายมาจากการคุมเข้มอุตสาหกรรมเกมของรัฐบาล เนื่องจากรายได้ประมาณ 1 ใน 3 ของ Tencent มาจากเกม
โดยเมื่อปีที่แล้ว หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้ออกกฎที่จำกัดระยะเวลาที่ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถเล่นเกมออนไลน์ได้สูงสุด 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และเฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลยังระงับการอนุมัติเกมใหม่ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2021 จนถึงเมษายนปีนี้ และเกมที่พัฒนามาจำเป็นต้องได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อนที่จะเผยแพร่และสร้างรายได้
นักวิเคราะห์ที่ China Renaissance กล่าวว่า Tencent เปิดตัวเกมมือถือเพียง 3 เกมในช่วงไตรมาสที่ 2 ดังนั้นบริษัทจึงใช้เกมเก่าสร้างรายได้ไปก่อน และ Tencent ได้ออกมาเปิดเผยว่า รายได้จากเกมในจีนช่วงไตรมาส 2 ก็ ลดลง 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ 31,800 ล้านหยวน ในขณะที่รายรับจากเกมต่างประเทศลดลงในอัตราเดียวกันเหลือ 10,700 ล้านหยวน เนื่องจากการระบาดที่คลี่คลาย คนเลยใช้เวลาเล่นเกมลดลง ไม่เหมือนช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนัก
ไม่ใช่แค่การคุมเข้มเกมของภาครัฐ แต่การที่เศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวจาก COVID-19 ได้ช้า เนื่องจากนโยบาย Zero Covid ก็ส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเศรษฐกิจจีนขยายตัวเพียง 0.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฟินเทค คลาวด์ และโฆษณา โดยรายได้จากโฆษณาออนไลน์ในไตรมาสที่สองมีจำนวนทั้งสิ้น 18,600 ล้านหยวน ลดลง 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี
อย่างไรก็ตาม Ma Huateng ซีอีโอของ Tencent กล่าวว่า ธุรกิจน่าจะกลับมาฟื้นตัว หากเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัว โดยระหว่างนี้ บริษัทกำลังพยายามจะ ควบคุมต้นทุน ของบริษัทเพื่อลดการใช้จ่ายในธุรกิจ และได้ปิดธุรกิจบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่เช่นการศึกษาออนไลน์และลดขนาดการสูญเสียบนคลาวด์
“เราสร้างรายได้ประมาณครึ่งหนึ่งจาก FinTech และ Business Services รวมถึงการโฆษณาออนไลน์ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะกลับมาเติบโตได้ หากเศรษฐกิจของจีนขยายตัว”